English translation for this page is currently unavailable. We are working on it, stay tuned!
menu-iconKaidee Auto แพลตฟอร์ม ซื้อ-ขาย รถยนต์ No.1
chat

ขายรถยนต์ เลกซัสมือสอง Lexus มือสอง ทั่วประเทศ

(47)
12
Lexus
ลักซ์ชัวรี คาร์ จากญี่ปุ่น ความสมบูรณ์แบบ ที่เป็นมากกว่าการอัปเกรด

Lexus คือแบรนด์รถยนต์หรูจาก Toyota ที่ต้องการที่จะเจาะตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมในภาคพื้นยุโรปและอเมริกา โดยในตอนนั้นประธานของ Toyota ทราบดีว่า ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ Toyota ยังไงก็ไม่สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดรถยนต์หรู ราคาแพงอย่าง BMW หรือ Mercedes Benz ได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเลย และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Lexus

ในประเทศไทยนั้น มีการนำเข้า Lexus รุ่นต่าง ๆ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยผู้นำเข้าอิสระหลายราย รวมถึง Toyota ประเทศไทยเองด้วย จนกระทั่งมีการตั้งบริษัท Lexus ประเทศไทยขึ้นมา มีรถหลากหลายรุ่นเข้ามาทำตลาด และแม้รถจะไม่ได้ขายดิบขายดี แต่ก็มีฐานแฟนคลับที่แน่นหนา ที่พร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์นี้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือผู้ที่ซื้อรถ Lexus ไป มักจะมีแต่คำพูดดีดีกับแบรนด์แบรนด์นี้เสมอ

Pros - จุดเด่น รถยนต์ Lexus
1
ความพรีเมี่ยม

Lexus เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นในเครือของโตโยต้าที่มุ่งพัฒนา และผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นให้มีความพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง Lexus เป็นแบรนด์รถพรีเมียมที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 4 ในประเทศสหรัฐอเมริกา

2
ราคาคุ้มค่า

Lexus เป็นอีกหนึ่งตังเลือกที่ดีสำหรับคนที่สนใจรถยนต์หรู หรือรถระดับพรีเมียม เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคาระหว่าง Lexus กับ แบรนด์รถหรูยุโรปนั้น Lexus เป็นแบรนด์รถพรีเมียมที่สามารถตอบโจทย์ความหรูหรา ความพรีเมียมได้ในราคาที่ย่อมเยากว่า

3
ค่าซ่อมบำรุง

ถึงแม้ว่า Lexus จะเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมียม แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเป็นอะไรที่น่าตกใจ เพราะค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงนั้นถูกกว่ารถพรีเมียมหลาย ๆ แบรนด์ และยังเป็นที่พูดถึงกันอีกว่า Lexus เป็นหนึ่งในรถพรีเมียมที่น่าเชื่อถือ และมีค่าซ่อมบำรุงไม่แพง

Cons - จุดอ่อน รถยนต์ Lexus
1
ความสับสนระหว่าง Lexus และ Toyota

ด้วยที่ Lexus เป็นแบรนด์ในเครือของ Toyota ซึ่งอาจจะทำให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของตัวตนแบรนด์ที่ต่างกัน และคิดว่า Lexus เป็นเพียงแค่รถที่ Toyota อัปเกรดฟังก์ชัน และขายในราคาที่สูงขึ้น แต่ที่จริงแล้วนั้น Lexus และ Toyota มีแผนการทางธุรกิจที่ต่างกัน คุณสมบัติและกลุ่มเป้าหมายก็ต่างกันด้วย

2
ศูนย์บริการน้อย

Lexus มีศูนย์ตัวแทนจำหน่ายน้อยแห่งซึ่งส่วนมากมีอยู่แค่ภายในเมืองหลวง ทำให้กระจายไปไม่ทั่วถึงมากนัก และยังมีการใช้ศูนย์บริการซ่อมร่วมกับโตโยต้าทำให้ยังมีภาพจำเดิม ๆ เกี่ยวกับแบรนด์ Lexus และยังมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่เกิดความสับสน

Viraphat 'Mart' Ngamjiradawong
Content Writer (Auto)

สรุปราคารถยนต์มือสอง Lexus

รุ่นราคามือสอง
LS
399,000
IS
440,000
CT
558,000
ES
139,000
GS
399,000
RX
399,000
NX
1,290,000
หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลง
รถไฮไลท์ Lexus

Lexus มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุก Segment แต่รถที่สร้างชื่อให้กับ Lexus น่าจะเป็นตระกูล LS ที่เป็นรถซีดานขนาดใหญ่หรูหรา และตระกูล IS ที่เป็นรถซีดานขนาดเล็ก ที่เน้นเรื่องความสปอร์ตปราดเปรียว และถือเป็น Lexus รุ่นแรก ๆ ที่มีราคาไม่สูงมากนัก ทำให้คนทั่วไปสามารถพอที่จะเป็นเจ้าของได้ ส่วนในระยะหลังตระกูล RX ก็เริ่มเป็นที่รู้จักจากความนิยมรถ SUV ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกนั่นเอง

01
รถเก๋ง - Passenger Car
Lexus CT200h

Lexus CT200h เป็นรถ Hatchback ที่ทาง Lexus ต้องการนำมาจับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรถ Hatchback ขนาดเล็กในระดับพรีเมี่ยม ตัวรถมีเส้นสายที่ดูดุดัน สปอร์ต มาพร้อมกับกระจังหน้า รุ่นนี้เปิดตัวในปี 2010 และมีให้เลือกแบบเดียวคือเครื่องยนต์แบบ Hybrid 1.8 ลิตร ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเดียวกันกับ Toyota Prius ให้การตอบสนองและสมรรถนะที่ดี ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มอย่างดีให้ความรู้สึกหรูหรา ปุ่มต่าง ๆ ถูกจัดวางมาให้ใช้งานง่าย และมีกระจกรอบคันถึง 10 บานด้วยกัน มีการ Minor Change 1 ครั้ง โดยเปลี่ยนกระจังหน้ามาเป็นแบบ Spindle Grille เอกสิทธิ์ของรถยนต์ Lexus

ในประเทศไทยมีการวางจำหน่ายอยู่ 2 รุ่นย่อยด้วยกันได้แก่รุ่น Luxury และรุ่น Sport โดยมีราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 2.15 ล้านบาท ในตลาดมือสองสามารถหาซื้อรถรุ่นนี้ได้ในราคา 558,000 บาท และในปัจจุบันทาง Lexus ก็เลิกสายพานการผลิตรถรุ่นนี้ไปแล้วในปี 2017

Lexus IS

Lexus IS เป็นรถซีดานขนาดเล็กค่อนกลางที่เข้ามาตีตลาดรถในระดับ C-Segment โดยมีคู่แข่งหลัก ๆ คือ BMW Series 3 และ Mercedes Benz C Class โดยคำว่า IS ย่อมาจาก Intelligence Sport ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความสปอร์ต และการใช้งานจริงได้อย่างชาญฉลาดและลงตัว มีวางขายมาแล้วทั้งหมด 3 เจเนอเรชัน โดยเจเนอเรชันแรกมีการนำเข้ามาโดยผู้นำเข้าอิสระเท่านั้น และแทบจะไม่มีขายในตลาดมือสองแล้ว ส่วน Lexus ประเทศไทยมีการนำเข้าเจเนอเรชันที่ 2 และ 3 เข้ามาวางจำหน่าย Lexus IS มือสอง ราคาเริ่มต้น 440,000 บาท*

Lexus GS

Lexus GS เป็นรถซีดานขนาดกลาง โดยคำว่า GS มาจากคำว่า Grand Sedan เป็นรถซีดานที่มีความโอ่โถง กว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายต่อผู้โดยสารและผู้ขับขี่ เป็นรถที่อยู่ระหว่างตระกูล IS และตระกูล LS เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ก่อนที่จะมีออปชั่นในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ Hybrid ในปี 2005 ออกมาวางจำหน่าย โดยในปัจจุบันมี Lexus GS ถูกผลิตออกมาทั้งหมด 4 เจเนอเรชันด้วยกัน

สำหรับเจเนอเรชันที่ 1 และ 2 ถูกนำเข้ามาโดยผู้นำเข้าอิสระเท่านั้น โดยขายควบคู่ไปกับรถคู่แฝดอย่าง Toyota Aristo ก่อนที่ทาง Lexus ประเทศไทยจะเริ่มนำเจเนอเรชันที่ 3 เข้ามาวางจำหน่าย และไม่ได้มีการนำเจเนอเรชันที่ 4 เข้ามาขาย เนื่องจากเป็นตลาดที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก และไม่คุ้มค่าในการลงทุน

Lexus GS เจเนอเรชันที่ 3 เจเนอเรชันนี้เปิดตัวในปี 2005 ภายใต้คอนเซปต์การออกแบบแบบ L-Finesse ให้เส้นสายที่โค้งมัน หน้าลาด ท้ายตัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถ Lexus ในยุคนั้น และมาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมี่ยม โดยเวอร์ชั่นที่มีวางขายในประเทศไทยจะเป็นรุ่น GS300 เป็นเครื่อง 3.0 ลิตร V6 ขับเคลื่อนล้อหลัง และมีการจำหน่ายรุ่น Hybrid ในปี 2006 Lexus GS โดยราคามือสองมีราคาเริ่มต้นที่ 399,000 บาท*

Lexus ES

Lexus ES เป็นรถซีดานหรูขนาดกลาง โดย ES เป็นตัวย่อของ Exective Sedan ที่ทำตลาดอยู่ระหว่าง Lexus GS และ Lexus LS วางขายเจเนอเรชันแรกในปี 1989 พร้อมกับแบรนด์ Lexus และวางจำหน่ายมาจนถึงเจเนอเรชันที่ 7 ในปัจจุบัน เป็นรถที่ถูกออกแบบมาเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า เน้นความหรูหรา การขับขี่ที่นุ่มสบายมากกว่าเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ โดยในเจเนอเรชันที่ 1-6 จะใช้ Platform เดียวกันกับ Toyota Camry ในขณะที่ เจเนอเรชันที่ 6-7 จะใช้ Platform ของ Toyota Avalon สำหรับเจเนอเรชันที่ 1 ไม่มีการวางจำหน่ายในประเทศไทย และเริ่มการนำเจเนอเรชันที่ 2 เข้ามาวางจำหน่าย

Lexus ES เจเนอเรชันที่ 2 เปิดตัวในปี 1991 ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับรุ่น LS อยู่บ้าง แต่มีรูปร่างที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น โดยรุ่นนี้มีรหัสว่า ES300 เพราะเครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า ในตลาดมือสองแทบจะไม่มีขายแล้ว

Lexus ES เจเนอเรชันที่ 3 ยังคงใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรอยู่ แต่ได้รับการปรับปรุงให้ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 200 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

การออกแบบของ Lexus ES ในรุ่นนี้ ยังคงได้รับอิทธิพลจากรุ่นก่อนหน้า โดยทรงรถโดยรวมยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่เส้นสายต่าง ๆ ถูกปรับปรุงให้มีความทันสมัย และโฉบเฉี่ยวมากขึ้น พร้อมตัวถังที่ผลิตจากเหล็กชนิดใหม่ที่ให้ความแข็งแรงที่เพิ่มข้นถึง 30% ในตลาดมือสองมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 139,000 บาท

Lexus ES เจเนอเรชันที่ 4 เปิดตัวในปี 2001 เป็นปรับโฉมครั้งใหญ่ของรถในตระกูล ES จากรถที่ดูภูมิฐาน มาเป็นรถที่ดูสปอร์ต หรูหรา ภายในห้องโดยสารถูกตบแต่งด้วยไม้วอลนัท พร้อมที่บังแดดบริเวณกระจกหลังที่ทำงานด้วยไฟฟ้า และกระจกมองหลังที่จะปรับเอียงลงเวลาเข้าเกียร์ถอยหลังโดยอัตโนมัติ นับเป็นความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Lexusให้ความสำคัญตลอดมา จนรถแบรนด์อื่นต้องหันมาทำตาม

Lexus ES เจเนอเรชันที่ 5 เปิดตัวในปี 2007 มาพร้อมกับตัวถังที่ขยายใหญ่ขึ้น และเครื่องยนต์ที่เพิ่มขนาดจาก 3.0 ลิตรเป็น 3.5 ลิตรทำให้รถรุ่นนี้เปลี่ยนรหัสการเรียกมาเป็น ES350 และยังมีการออกรุ่น ES240 ที่เป็นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 4 สูบ เข้ามาวางจำหน่ายในบางประเทศอีกด้วย

ภายในยังคงได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราเหมือนเดิม อุปกรณ์ใหม่หลัก ๆ ที่มีการติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาคือ ถุงลมนิรภัย 8 จุด กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ระบบ Adaptive Cruise Control ที่จะคอยปรับเปลี่ยนความเร็วรถยนต์ตามรถด้านหน้า ด้วย sensor รักษาระยะห่าง รวมไปถึงระบบ Self Parking ด้วย

Lexus ES เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวในปี 2012 โดยมี 2 รุ่นย่อย คือ ES350 และ ES300h ที่เป็นเครื่องยนต์ Hybrid มาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ของ Lexus ภายในมาพร้อมกับระบบ Remote Touch Interface มีลักษณะคล้าย ๆ กับเมาส์ที่สามารถเลื่อนไปบนหน้าจอ เพื่อดูสถานะของรถ รวมถึงสั่งการต่าง ๆ ด้วย ระบบความปลอดภัย ได้รับการอัพเกรด โดยมีการติดตั้งระบบเตือนรถยนต์ในจุดบอด ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนส์ พร้อมถุงลมนิรภัยมากถึง 10 จุด และมีการ Minor Change ในปี 2005

Lexus ES เจเนอเรชันที่ 7 เปิดตัวในปี 2018 มาพร้อมกับระบบ Lexus Safety System+ 2.0 ด้านนอกไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ที่เปลี่ยนไปคือ มีการออกรุ่นขับเคลื่อนแบบ AWD ที่สามารถส่งกำลังแบบ 50/50 ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อเพื่มกำลัง และการเกาะถนในเวลาขับขี่ มาพร้อมกับ Day Time Running Light รูปตัว

Lexus LS

Lexus LS คือรถที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Lexus และทำให้ Lexus ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ มีวางจำหน่ายมาแล้ว 5 เจเนอเรชัน โดยเจเนอเรชันที่ 1 - 4 จะมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 และขับเคลื่อนล้อหลัง ก่อนจะมีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ V6 ในเจเนอเรชันที่ 5 โดยคำว่า LS เป็นตัวย่อของคำว่า Luxury Sedan และถือเป็นเรือธงหรือ Flagship Product ของแบรนด์ Lexus

Lexus LS เจเนอเรชันที่ 1 เปิดตัวในประเทศอเมริกาในปี 1989 พร้อมกับแบรนด์ Lexus เป็นรถที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้เป็นรถหรูที่ประหยัดน้ำมันมาก มาพร้อมกับอุปกรณ์ภายในที่มีอย่างครบครันทั้งถุงลมนิรภัย กระจกมองหลังที่ปรับด้วยไฟฟ้า หน้าปัดที่ตกแต่งด้วยไม้วอลนัต และเบาะหนังหรูหรา

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 250 แรงม้า และกลายมาเป็นรถที่ขายดีมากโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน และทำให้แบรนด์ Lexus เปิดตัวสู่ตลาดโลกได้อย่างสวยงาม

Lexus LS เจเนอเรชันที่ 2 เปิดตัวในปี 1994 และขายจนถึงปี 2000 รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเจเนอเรชันที่ 1 อย่างมาก ทั้งความประหยัดน้ำมัน ตัวถังที่มีความแข็งแรง และใหญ่ขึ้น ตลอดจนเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้พละกำลังสูงขึ้นเป็น 260 แรงม้า พร้อมระบบปรับอากาศแบบแยกโซนสองด้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทันสมัยมากในตอนนั้น การออกแบบ ยังมีความคล้ายคลึงกับรถในเจเนอเรชันที่ 1 ส่วนรุ่นหลังปี 1997 จะหันมาใช้เครื่องยนต์ที่เป็นระบบหัวฉีด VVT-i เหมือนกับรถยนต์ของ Toyota

Lexus LS เจเนอเรชันที่ 3 เปิดตัวในปี 2000 และขายจนถึงปี 2006 ในปัจจุบันยังพอหาได้ในตลาดมือสองโดยมีราคาเริ่มต้นที่ 399,000 บาท ถือเป็นรถหรูที่น่าสะสมอีกคันนี้ โดยการออกแบบนั้นยังคงได้รับอิทธิพลมาจากทั้งสองเจเนอเรชันแรก ตัวรถยังมีความ Boxy คือด้านหน้า ด้านหลังมีความสมดุลย์กัน เพียงแต่เปลี่ยนเส้นสาย ให้มีความโค้งมน กลมกลึง ลงตัว และทันสมัยมากขึ้น

รถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ยิ่งประหยัดน้ำมันมากขึ้นไปอีก ส่วนเครื่องยนต์ก็ได้รับการอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์ขนาด 4.3 ลิตร 290 แรงม้า มีการ Minor Change ในปี 2003 โดยการติดตั้งถุงลมนิรภัยที่บริเวณเข่า กล้องมองหลัง และ Sensor เตือนเมื่อมีวัตถุเข้าใกล้ โดยรถในเจเนอเรชันนี้จะใช้รหัสว่า LS430

Lexus LS เจเนอเรชันที่ 4 ในรุ่นนี้มีรหัสว่า LS460 มีรูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ L-Finesse ซึ่งเห็นได้ชัดจากด้านท้ายที่มีลักษณะค่อย ๆ ลาดลงด้านหลังให้ความรู้สึกสปอร์ตและดูโฉบเฉี่ยว มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4.6 ลิตร 380 แรงม้า และในปี 2007 มีการออกรุ่น Hybrid ออกมาวางจำหน่าย

รุ่นนี้เป็นรถที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยกวาดรางวัลทรงเกียรติมาจากหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็น World Car of the Year 2007, International Car of the Year 2007 และรางวัลจากนิตยสารดัง ๆ มากมายทั่วโลก โดยมีราคามือสองเริ่มต้นที่ 1.2 ล้านบาท

Lexus LS เจเนอเรชันที่ 5 มีรหัสว่า LS500 เปิดตัวในปี 2017 มีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 รุ่นย่อยในประเทศไทยคือ LS350, LS500 และ LS500h ซึ่งรุ่นหลังเป็นเครื่องยนต์ Hybrid โดยทาง Lexus ต้องการให้รถรุ่นนี้เป็นรถที่นำพา Lexus ไปสู่อนาคต เริ่มจากการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ดุดัน ให้ความสำคัญกับผู้โดยสารด้านหลังเป็นพิเศษ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นสุด Lexus Safety System Plus และเครื่องเสียง Mark Levinson ส่วนภายในมีผสมผสานความประณีตของญี่ปุ่น ให้เข้ากับความทันสมัยของโลกยุคปัจจุบัน โดยมีราคามือหนึ่งเริ่มต้นอยู่ที่ 13.1 ล้านบาท

02
รถอเนกประสงค์ - SUV (Sport Utility Vehicle)
Lexus NX

Lexus NX เป็นรถ Crossover ขนาดเล็กค่อนกลาง ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรถ Crossover ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคปัจจุบัน รถรุ่นนี้เปิดตัวในปี 2014 และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยกลายเป็น Lexus รุ่นที่ขายดีที่สุดในยุโรป

Lexus NX เจเนอเรชันที่ 1 Lexus เลือกที่จะเปิดตัวรถรุ่นนี้ที่งาน Motor Show ที่ปักกิ่ง โดยเป็นรถที่ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่หมด โดยมีการแชร์ส่วนประกอบบางส่วนเพียงเล็กน้อยกับ Toyota Rav 4 ตอนเปิดตัวในประเทศไทยนั้น มีรุ่นย่อยสองรุ่นด้วยกันคือ NX300h ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 197 แรงม้า และรุ่น NX300 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อม Turbo เพื่อสมรรถนะและการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับเทคโนโลยี ESTEC ที่ช่วยให้การเผาไหม้ในห้องเครื่องเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในตลาดมือสองมีราคาเริ่มต้นที่ 1.3 ล้านบาทในรุ่น Hybrid

Lexus NX เจเนอเรชันที่ 2 สำหรับเจเนอเรชันนี้เพิ่งเปิดตัวไปในปี 2020 มีทั้งเครื่องเบนซิน 2.4 ลิตร และเครื่องแบบ Hybrid และคาดว่าจะเริ่มขายในประเทศไทยในปี 2022 นี้

Lexus RX

Lexus RX เป็นรถ SUV ขนาดกลาง ในสมัยตอนที่ขายใหม่ ๆ Toyota ขายรถรุ่นนี้ไปพร้อม ๆ กับ Toyota Harrier และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา ซึ่งแนวคิดของ Lexus RX นั้น ต้องย้อนกลับไปในปี 1994 ตอนที่ผู้บริหารของ Toyota เห็นว่า ตลาดรถ SUV ขนาดกลาง ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นรถระดับหรู หรือพรีเมี่ยมอยู่ ทาง Toyota จึงต้องการที่จะหารถซักคัน เพื่อมาจับกลุ่มเป้าหมายตรงนี้ โดยมุ่งเน้น เป็นรถครอบครัว ที่บรรดาพ่อแม่ที่อยู่ชานเมืองจะใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ในวันหยุดก็สามารถพาสมาชิกไปเที่ยวสนุก ๆ ได้

Lexus RX วางขายเจเนอเรชันแรกในปี 1998 จนมาถึงเจเนอเรชันที่ 4 ในปัจจุบัน ซึ่งราคามือหนึ่งของเจเนอเรชันปัจจุบันจะอยู่ที่ 4.2 ล้านบาท

Lexus RX เจเนอเรชันที่ 1 เป็นรถที่ผลิตมาจาก Platform ของ Toyota Camry มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 4 สูบ ให้แรงม้าสูงสุดที่ 220 แรงม้า มาพร้อมกับเทคโนโลยีครบครัน ทั้งระบบเบรค ABS ระบบกระจายแรงเบรค และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในประเทศไทยนั้นมีการนำเข้า Toyota Harrier ซึ่งเป็นรถคู่แฝด ทำให้ Lexus RX ในเจเนอเรชั้นนี้ไม่ค่อยมีในประเทศไทย

Lexus RX เจเนอเรชันที่ 2 เจเนอเรชันนี้เปิดตัวในปี 2003 มีความโดดเด่นอยู่ที่ห้องโดยสารที่คอนโซลกลางจะถูกแยกออกเป็นสองด้านเหมือนกับปีกนก มีจอแสดงผลอยู่ตรงกลาง พร้อมเครื่องปรับอากาศแยกสองด้าน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร และ 3.0 ลิตร มีราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่ 399,000 บาท

Lexus RX เจเนอเรชันที่ 3 เจเนอเรชันนี้เปิดตัวในปี 2008 มาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาที่ดูทันสมัยมากขึ้น ภายใต้คอนเซปต์การออกแบบแบบ L-Finesse พร้อมทั้งการพัฒนาระบบส่งกำลัง มีการติดตั้งระบบ Active Torque Control เข้ามา ซึ่งจะเป็นระบบที่จะคอยกระจายกำลังเครื่องไปตามล้อต่าง ๆ ตามสภาพการขับขี่ และพวงมาลัยก็เปิดพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ 100%

ครื่องยนต์ของเจเนอเรชันนี้ในประเทศไทยเป็นเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร Dual VVT-i 275 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดบวกลบ และระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ

Lexus RX เจเนอเรชันที่ 4 มาถึงเจเนอเรชันปัจจุบัน 4 ที่เปิดตัวในปี 2015 เป็นเจเนอเรชันล่าสุด ที่ตอนนี้มีวางจำหน่าย 4 รุ่นคือ RX300 , RX300F ซึ่งทั้งสองรุ่นให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า เป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร รุ่น RX350 F Sport เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร ให้กำลัง 300 แรงม้า และรุ่น RX450 ที่ให้กำลังสูงสุด 263 แรงม้า

การออกแบบยังคงความเป็นเอกลักษณ์พร้อม Spindle Grille ที่บริเวณกระจังหน้า หน้าจอ 12.3 นิ้วภายในห้องโดยสาร หน้าจอกล้องหลังที่ให้มุมมองแบบพาโนรามา และระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโตมัติ ช่วยในเรื่องของการกระจายแสง เพื่อป้องกันการรบกวนกับผู้ขับขี่คนอื่น

บทสรุป Lexus

Lexus เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความสามารถในการผลิตรถยนต์หรูที่มีคุณภาพสูง โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทาง Lexus ปรัชญาในการผลิตรถยนต์ว่า “The Relentless Pursuit of Perfection” ซึ่งแปลได้ตรง ๆ ว่า การพยายามอย่างไม่ลดละ ในการเฟ้นหาความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นใครที่ซื้อรถ Lexus ไป รับรองได้เลยว่าจะได้รถที่สมบูรณ์แบบ และอยู่คู่กับคุณไปเป็นเวลานานเลยทีเดียว และในปัจจุบัน Lexus ก็มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมรถยนต์ในทุก Segment ใครอยากได้รถแบบไหน Lexus สามารถตอบโจทย์ได้หมด

ในตลาดมือสอง มี Lexus วางขายอยู่หลายรุ่นด้วยกัน หลายคันมีราคาไม่สูงมาก เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด แต่อยากลองเป็นเจ้าของรถยนต์หรูซักคัน นอกจากนี้ Lexus ยัมีศูนย์บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการอีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ Lexus เป็นอีกแบรนด์รถยนต์หรูที่ไม่ควรองข้ามโดยเด็ดขาด

FAQ : คำถามพบบ่อย
รถยนต์ Lexus มือสองราคาถูกที่สุดเท่าไร ?
ราคารถยนต์ Lexus ประมาณเท่าไร?
รถยนต์ Lexus มือสองมีทั้งหมดกี่รุ่น ?
Kaidee Auto มีรถยนต์ Lexus มือสองทั้งหมดกี่คัน?

ติดต่อเรา

บริษัท เคดี มาร์เก็ตเพลส จำกัดเลขที่ 191/23 อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตยกรุงเทพมหานคร 1011002-119-5000cs@kaidee.com
Link to FacebookLink to TwitterLink to InstagramLink to Youtube

เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น

Link to AppStoreLink to Google Play StoreLink to Huawei store
© 2567 บริษัท เคดี มาร์เก็ตเพลส จำกัด