ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา “รถกระบะ” นับเป็นฟันเฟืองสำคัญ เพื่อใช้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและพาณิชย์ โดยไทยจัดเป็นฐานการผลิตใหญ่ของรถกระบะขนาด 1 ตัน ศูนย์กลางการส่งออกไปทั่วโลก โดยรถกระบะที่มียอดขายดีมากๆ และเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ก็คือ Toyota Hilux Vigo หัวขบวนแห่งความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นยุคมิลเลนเนียล
กระบะในตระกูล Hilux มีสายการผลิตยาวนานมากกว่า 50 ปี ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 เจเนอเรชัน โดยในแต่ละเจเนอเรชันใช้นามสกุลขึ้นต้นว่า Hilux แล้วตามด้วยชื่อเรียก เช่น Toyota Hilux Tiger, Toyota Hilux Vigo (ต่อมาปรับโฉมใหม่ เติมชื่อให้ยาวขึ้นเป็น Vigo Champ), Toyota Hilux Revo ฯลฯ พูดให้เข้าใจง่ายด้วยภาษาชาวบ้าน คือ Hilux เป็นนามสกุล ส่วนลูกแต่ละคนก็มี “ชื่อจริง” ใช้เรียกแตกต่างกันออกไป
สำหรับ Toyota Hilux Vigo กระบะเจเนอเรชันที่ 7 ของตระกูล ทำตลาดยาวนานกว่า 11 ปี ผ่านการเปลี่ยนโฉม 1 ครั้ง และปรับโฉมอีก 2 ครั้ง มีหลายรูปแบบตัวถัง พร้อมเพิ่มออปชัน (เกือบ) ทุกปี ผลิตและจำหน่ายมากกว่า 30 รุ่นย่อย ใช้พรีเซ็นเตอร์หลายคน และที่สำคัญยังเป็นรถต้นแบบของโครงการ IMV ที่ต่อยอดเป็น Innova และ Fortuner ด้วยพื้นฐานแชสซีและเทคโนโลยีจากแพล็ตฟอร์มใช้ร่วมกัน
หากจะเอ่ยถึงกระบะสายซิ่ง ทนทานทุกการใช้งาน ต้องมีชื่อของ Toyota Hilux Vigo ติดโผอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เป็นหนึ่งในรถยอดนิยมของคนต่างจังหวัด ลุยได้ทุกเส้นทางทุกสภาพถนน เข้าออกสวนได้สบาย ๆ เหยียบคันเร่งทีไรได้ถึงใจ อัตราเร่งทำได้ยอดเยี่ยม ที่สำคัญไม่ค่อยมีปัญหาเครื่องยนต์จุกจิก (อะไหล่หาง่าย)
อีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้กระบะ Toyota Hilux Vigo ขึ้นแท่นเป็นรุ่นตัวท็อปของแบรนด์ คือเรื่องประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะรุ่นหลัง ๆ ที่ออกมา ชูเรื่องนี้และทำได้ยอดเยี่ยมขึ้นกว่าเดิม ว่ากันว่าประหยัดได้มากถึง 15-16 กิโลเมตร/ลิตร อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสิ่งที่บรรทุกด้วย ถ้ามากก็กินน้ำมันมาก รวมถึงลักษณะการขับขี่ส่วนบุคคลด้วย
ด้วยความเป็นรุ่นดัง ทำตลาดได้ค่อนข้างแมส แถมคุณสมบัติครบเครื่อง ครบครันได้ทุกการใช้งาน ดังนั้น จึงเป็นหนึ่งในรถที่มีความต้องการของผู้ใช้งานอยู่เรื่อย ๆ เข้ามาหมุนเวียนในตลาดรถมือสองค่อนข้างบ่อย ขายง่าย ขายไว
ความที่เป็นรถกระบะสายลุย เน้นขนของเป็นหลัก สมรรถนะการขับขี่จึงอาจจะไม่ได้นุ่มนวลเหมือนรถเก๋ง แรงสั่นสะเทือนหรือการกระแทกต่าง ๆ อาจจะได้รับมากกว่า บ้างก็ว่ารถกระบะยี่ห้ออื่นสมูทกว่า Toyota Hilux Vigo ด้วยซ้ำ แต่ทางโตโยต้าก็มองว่าแลกมากับประสิทธิภาพการใช้งานด้านอื่น ๆ แทน
ข้อนี้อาจเป็นผลมาจากอัตราการเร่งที่ดี เหยียบได้ไว สลับกับการเหยียบเบรกบ่อย ๆ ระบบเบรกจึงเสื่อมได้ไวกว่าปกติ ทั้งนี้จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ของแต่ละผู้ใช้งานด้วย
พวงมาลัยของ Toyota Hilux Vigo มีน้ำหนักที่เบา ยิ่งพอคุณทำความเร็วรถในอัตราที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ หากคุมพวงมาลัยได้ไม่ดี พอถึงช่วงเข้าโค้งท้ายรถจะปัดเอาได้ง่าย ๆ ซึ่งเป็นจุดที่ต้อง Concern พอสมควรเพราะค่อนข้างอันตราย (หากขับด้วยความเร็วปกติ 80-110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยังไม่พบอาการนี้เท่าไร)
สรุปราคามือสอง
จุดเด่นของ Hilux Vigo ต้องยกให้กับความเป็นรถตลาดที่คนไทยให้การยอมรับ มีความต้องการซื้อและขายต่อเนื่อง ติดกลุ่มรถมือสองยอดนิยม โครงสร้างรถแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบตัวถัง คือ กระบะตอนเดียว - Single Cab, กระบะตอนครึ่ง - Extra Cab, กระบะตอนครึ่งแบบแคปเปิดได้ - Smart Cab และกระบะ 2 ตอน แบบ 4 ประตู - Double Cab ในทุกตัวถังแยกรุ่นมาตรฐาน (ตัวเตี้ย) และรุ่นยกสูง (Prerunner) อีกด้วย หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2002
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2002 ในที่สุด Toyota ก็แถลงข่าวเปิดตัว Hilux Vigo ครั้งแรกของโลกในไทย นับเป็นการเผยโฉมเจเนอเรชัน 7 อย่างเป็นทางการ การออกแบบทั้งภายนอก, ภายใน และเครี่องยนต์ ล้วนแตกต่างจากเจเนอเรชัน 6 หรือโฉม Hilux Tiger ชัดเจน
ทำตลาดด้วย 4 รูปแบบตัวถัง ในช่วงแรกมีขายกระบะตอนเดียว, กระบะตอนครึ่ง และกระบะ 4 ประตู จากนั้นในปี 2008 จึงเพิ่มตัวถังแบบสมาร์ทแคป ทุกตัวถังมีออปชันแบ่งเป็น 3 เกรด คือ J, E และ G
Hilux Vigo ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 5 ทางเลือก เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ระบบหัวฉีด VVT-I รหัส 2TR-FE ความจุ 2.7 ลิตร พลัง 160 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ D4D คอมมอนเรล ความจุ 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV พลัง 102 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ D4D คอมมอนเรล ความจุ 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV อัปเกรดเป็น 120 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล วีเอ็น เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ D4D คอมมอนเรล ความจุ 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV พลังสูงสุดในบล็อก 144 แรงม้า และท็อปสุดเป็นเครื่องยนต์ดีเซล วีเอ็น เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ D4D คอมมอนเรล ความจุ 3.0 ลิตร รหัส 1KD-FTV พลังแรงจัด 163 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 4 จังหวะ
สังเกตเครื่องยนต์ Vigo ดูง่ายๆ ไม่ยาก สรุปมีเบนซิน 1 ตัว บล็อกนี้นิยมเอาไปติดแก็สเพิ่ม, ดีเซล 2.5 อีก 3 ตัว เครื่องรหัสเดียวกันทั้งหมด (แตกต่างกัน ตรงเพิ่มอินเตอร์คูลเลอร์ และเทอร์โบแปรผัน) สุดท้ายเครื่องบล็อกใหญ่สุด 3.0 ลิตร เมื่อนับรวมแล้ว Hilux Vigo มีมากกว่า 30 รุ่นย่อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นในเรื่องของแชสซีแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ Top Platform อีกด้วย จะซื้อกระบะรุ่นนี้ต้องจำข้อมูลทั้งหมดให้แม่น เพราะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเจเนเรชัน 7 ต่อไปอีก 11 ปี สำหรับ Hilux Vigo โฉมปี 2002 ราคาเริ่มต้น 139,000 บาท
รุ่นปี 2009
ต่อมาช่วงปี 2009 ก็ได้เวลาปรับโฉม (Minor Change) ครั้งแรกของ** Hilux Vigo** ด้านหน้าเปลี่ยนใหม่ยกเซ็ต ไม่ว่าจะเป็นกระจัง ไฟส่องสว่าง และกันชน นอกจากนี้ยังอัปเกรดจากตัวถังกระบะตอนครึ่งให้เป็น “สมาร์ทแคป” ทั้หมด (ยกเว้น รุ่น J) และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีการเปลี่ยนระบบเบรก พร้อมเพิ่มระบบ VSC และ TRC เข้ามาด้วย โฉมนี้ตองสังเกตดูให้ดี เพราะมีการปรับโฉมที่น้อยมากจนดูยาก บางคน (อาจ) มองว่าไม่ต่างจากตอนเปิดตัวเลยด้วยซ้ำ สำหรับ Hilux Vigo ปี 2009 เริ่มต้น 297,000 บาท
รุ่นปี 2012
นับเป็นการปรับโฉมใหญ่และครั้งสุดท้ายให้เจเนอเรชัน 7 ทำการตลาดภายใต้ชื่อ Hilux Vigo Champ (เพิ่มชื่อต่อท้าย) โดยมี “คริสเตียโน โรนัลโด” รับบทเป็นพรีเซ็นเตอร์ รอบนี้ปรับโฉมชัดเจนมาก จนวงการสื่อเรียก Big Minor Change กันเลยทีเดียว
Vigo Champ ปรับโฉมรอบคัน ชัดเจนที่สุด คือ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ จับคู่กับกันชน ฝากระโปรง โป่งซุ้มล้อชุดใหญ่ ภายในห้องโดยสารทาง Toyota ปรับรายละเอียดทั้งแดชบอร์ด คอนโซล และเรือนไมล์ใหม่ทั้งหมด พร้อมจูนช่วงล่างให้เกาะถนนมากยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Diamond Tech
ทั้งนี้การปรับ Vigo สู่โฉม Champ เป็นไปตามความต้องการตลาดเพื่อ “รถกระบะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น” และยังส่งผลให้ Fortuner และ Innova ต้องปรับโฉมตามในทันที **สำหรับ Hilux โฉม Vigo Champ ราคามือสอง เริ่มต้น 368,000 บาท **
Toyota Hilux Vigo เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Toyota Hilux Vigo
รถกระบะ Toyota Hilux Vigo มีความสำคัญและกินส่วนแบ่ง Market Share มากที่สุด ตลอดระยะเวลาของเจเนอเรชัน 7 รวม 11 ปี ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายหลายล้านคัน กลายเป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยนส์ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างท่วมท้น นับเป็นต้นแบบแห่งการพลิกโฉมเข้าสู่กระบะยุคใหม่อย่างชัดเจน สำหรับ Vigo มือสองมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งในแง่มุมของ “จำนวนรุ่นย่อย” ที่จอดขาย และ “จำนวนรถ” ที่อยู่ในท้องตลาด ก่อนเลือกซื้อสักคัน จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้แม่นยำ เพื่อให้ได้รถยนต์คุณภาพดี ตอบโจทย์การใช้งาน ในราคาที่เหมาะสม แต่โดยรวมแล้วบอกได้คำเดียวว่า Hilux Vigo ชื่อนี้การันตีเรื่องคุณภาพ ขับง่าย ใช้งานดี ไม่จุกจิก และประหยัดเชื้อเพลิง ซื้อใช้แล้วมีกำไรจากการใช้งาน ทอนคืนให้เห็นๆ