Toyota Commuter รถตู้โดยสารยอดนิยมที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ก็มิอาจปฏิเสธความยอดนิยมของรุ่นนี้ได้เลย เพราะด้วยความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ความทนทานของเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง ห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งในเรื่องการขนส่งผู้โดยสาร หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์
Toyota Commuter ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในโรงงานที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 1976 แล้วเข้าสู่ไทยในเวลาต่อมา สำหรับการใช้งานส่วนใหญ่ออกไปในด้านธุรกิจขนส่งและโดยสารเป็นสำคัญ และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จนถูกนำไปทำเป็นรถตู้โดยสารสาธารณะ ใช้วิ่งรับส่งผู้คนทั้งในเมืองและต่างจังหวัด โดยในไทยได้นำเข้ามาจำหน่าย 3 โมเดล ได้แก่ Hiace รถตู้ทั่วไป, Ventury รถตู้หลังคาสูงแบบวีไอพี และ Commuter รถตู้ทรงหลังคาสูง
มาพร้อมคอนเซปต์ “คุณภาพ ทนทานและน่าเชื่อถือ” มุ่งเน้นความเป็นรถตู้อเนกประสงค์ ที่ให้คุณครบทั้งระบบความปลอดภัย และความสะดวกสบายที่มากกว่า ตอกย้ำความเป็นที่สุดของการเดินทางเบอร์ต้น ๆ
Toyota Commuter มีให้คุณเลือกขับทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (พร้อมระบบ Sequential Shift) และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด คล่องตัวทุกเส้นทาง เพิ่มอัตราการเร่งได้สมบูรณ์และนุ่มนวลในทุกช่วงความเร็ว ครอบคลุมทุกการขับขี่ จะเส้นทางไหนก็เอาอยู่ (เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ)
วางใจได้กับระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม ตั้งแต่เครื่องยนต์หน้าที่ไม่ได้เป็นแค่ขุมพลังเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ทั้งยังมีถุงลมเสริมความปลอดภัย Airbag เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และป้องกันการเกิดเหตุด้วยระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
หนึ่งในปัญหาที่ใช้งานจริงคอมเพลนกันพอสมควร เมื่อทำความเร็วไปได้สักระยะ Toyota Commuter บางคันจะออกอาการล้อสั่น โดยปัญหานี้แก้ได้ด้วยการเอารถไปเข้าศูนย์ เจียรจานเบรคเพื่อแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่าหากเจอช่างทำไม่ดีก็เป็นปัญหาในระยะยาวอีกได้
ว่าง่าย ๆ คือเบรกกระตุกนั่นเอง แตะเบรกลงน้ำหนักนิดเดียวแต่รถคือหยุดกะทันหันทันที อาจจะเกิดอุบัติเหตุง่าย ต้องวางน้ำหนักหรือขับให้ชำนาญ เพื่อรู้จังหวะมากขึ้น
ด้วยความเป็นรถตู้ที่จุได้ถึง 15 ที่นั่ง พื้นที่ตัวเบาะจึงค่อนข้างแคบ และอาจจะนั่งทางไกลไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเบาะที่นั่งแถวสองและสามที่ปรับพับได้ ดีไซน์ต่าง ๆ อาจจะไม่ค่อยฟังก์ชันกับการนั่งเท่าไร
สรุปราคามือสอง
Toyota Commuter รถตู้อเนกประสงค์ยอดนิยม เหมาะกับการใช้งานทั้งส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ การันตีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน นับเป็นรถที่ใช้งานง่าย สามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้หลายประเภท แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง สำหรับราคามือสองขึ้นอยู่กับรุ่นปี รุ่นย่อย สภาพ และของตกแต่ง ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 200,000-900,000 บาท* หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 1967
เริ่มต้นกันที่เจอเนอเรชันแรก ผลิตขึ้นในปี 1967-1977 รหัสตัวถัง H10 มี 2 แบบ คือ รถบรรทุกสี่ล้อ และรถตู้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเน้นการใช้งานเป็นรถสาธารณะและบรรทุกสิ่งของ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3, 1.5, 1.6 และ 1.8 ลิตร เกียร์ 4 สปีด รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 8 คน โดยในยุคนั้นคู่แข่งคนสำคัญที่ผลิตรถสไตล์นี้ออกมาก็คือ Nissan Homy
รุ่นปี 1977
ต่อมาเจเนอเรชันที่ 2 ถูกผลิตขึ้นในปี 1977-1982 รหัสตัวถัง H11, H20, H30, H40 มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ที่ดูทันสมัยและมีความลู่ลมมากกว่าเดิม โดยเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสารให้มีความกว้างขึ้น รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 15 ที่นั่ง และใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6, 1.8 และ 2.0 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร ในบ้านเราจะนิยมเรียกกันว่า “หัวแตงโม”
รุ่นปี 1982
เจเนอเรชันที่ 3 ที่ถูกผลิตขึ้นในปี 1982 มีรหัสตัวถัง H50 มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในเรื่องของขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8, 2.0, 2.2 และ 4.0 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลมี 3 ขนาด คือ 2.2, 2.4 และ 2.8 ลิตร โดยรุ่นนี้มีระบบขับเคลื่อนให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ 2 ล้อ และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งรุ่นนี้เริ่มเป็นที่รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากับคนไทยเป็นอย่างดี
รุ่นปี 1989
เจเนอเรชันที่ 4 รหัสตัวถัง H100 โดยเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก ทั้งการใช้งานเป็นรถตู้โดยสารสาธารณะที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ดีไซน์การออกแบบที่ดูทันสมัยมีความลู่ลมจนถูกเรียกว่าเป็น “หัวจรวด” มีห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง และประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญรุ่นนี้ยังเป็นรุ่นที่ขายดีครองตลาดมาอย่างยาวนาน
รุ่นปี 2004
มาที่เจเนอเรชัน 5 ผลิตขึ้นในปี 2004-2018 รหัสตัวถัง H200 นับว่าเป็นรุ่นก่อนปรับโฉมครั้งล่าสุดและเป็นหนึ่งรุ่นยอดนิยมที่นำมาใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งขนส่งสินค้า หรือรถโดยสารสาธารณะ เครื่องยนต์ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร 1KD-FTV (l/c) 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอืนเตอร์คูลเลอร์ ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่หรูหรามันสมัยที่เรียกได้ว่าเป็นรถตู้ขวัญใจมหาชนกันเลยทีเดียว
รุ่นปี 2018
ปิดท้ายกันที่เจเนอเรชัน 6 โฉมปัจจุบันกับรหัสตัวถัง H300 ถึงแม้จะปรับเปลี่ยนเพื่อเตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ แต่ก็ยังคงเป็นรถที่ใช้งานได้แบบคุ้มค่าที่สุด โดยทำการออกแบบตัวถังแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสะดวกสบาย และยังเหมาะสำหรับเป็นรถในการเดินทางและการขนส่ง เพิ่มการออกแบบในช่วงกระโปรงหน้าที่ยื่นออกมาเพื่อความทันสมัย
Toyota Commuter เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Toyota Commuter
Toyota Commuter รถตู้ยอดนิยม ส่วนใหญ่ถูกใช้งานทั้งส่วนบุคคลและเพื่อการพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นรับส่งผู้โดยสาร สินค้าแทบจะทุกประเภท และเนื่องจากเป็นรถตู้ขนาดใหญ่ จึงมีทั้งค่าตกแต่งและการบำรุงรักษา การจดทะเบียน ที่แตกต่างจากรถส่วนบุคคลทั่วไป ผู้ใช้งานจึงต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมตัวในเรื่องเอกสารพร้อมงบประมาณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย