สำหรับหลายคนที่เติบโตมาในยุค 90s น่าจะรู้จักกับ Nissan Cefiro เป็นอย่างดี เพราะตอนเปิดตัวนั้นถือว่าสร้างสีสันให้กับตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลางของไทยเป็นอย่างมาก ด้วยรูปโฉมเพรียวลม ดูสปอร์ต แตกต่างจากรถใน Segment เดียวกัน และที่สำคัญคือเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ถูกใจสายซิ่งในยุคนั้นแบบยากที่จะหาใครเปรียบ
จุดเด่นของ Cefiro คือ เครื่องยนต์ 6 สูบ สมรรถนะสูง เพราะรถ Segment เดียวกันในตลาดตอนนั้นล้วนแล้วแต่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเท่านั้น ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหารถหรู แต่เครื่องแรงอยู่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม ทั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ ระบบโซน่าร์ เป็นต้น
ด้วยความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ทำให้แม้จะมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง แต่ Nissan Cefiro ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีดาราดังมากมายตบเท้าเข้ามาจับจองรถยนต์รุ่นนี้ ขนาดถึงกับต้องปิดการจอง และต้องรอรถกันนานถึง 6-7 เดือนกันเลยทีเดียว และ Nissan ประเทศไทย เปิดตัว รถรุ่นนี้ในประเทศไทยมถึง 3 เจเนอเรชัน ตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปี 2004 ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วย Nissan Teana ในปี 2005
รถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) แห่งค่ายนิสสัน ถึงจะออกมาตีตลาดนานแล้วก็ตาม แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความทันสมัย สะดุดตา หรูหราสไตล์รถยุโรป จึงทำให้ Nissan Cefiro ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดรถมือสองอย่างสม่ำเสมอ
ความเก๋าที่ทำให้หลาย ๆ คนให้ความสนใจรถรุ่นนี้ คือความทนทานของเครื่องยนต์ ทำงานเงียบ ไม่ค่อยส่งเสียงดังกวนใจ พร้อมลุยทุกสภาพเส้นทาง ทั้งยังมีความหนึบเกาะถนนได้ดี เลี้ยวแล้วท้ายไม่ปัด
ไม่ใช่แค่ภายนอกที่สวยงามสะดุดตาเท่านั้น ความหรูหราของรถรุ่นนี้ยังสะท้อนผ่านความงามของห้องโดยสารด้านในที่กว้างขวาง ทั้งฝั่งคนขับและฝั่งด้านหลัง ขณะที่ตัวเบาะทำจากหนังอย่างดี นุ่มสบาย
ข้อเสียอันดับต้น ๆ ของ Nissan Cefiro รุ่นนี้เป็นเรื่องความกินน้ำมัน ไม่ค่อยเซฟเงินในกระเป๋าสักเท่าไร จะเห็นได้ว่ารถรุ่นนี้ถูกนำไปติดแก๊สค่อนข้างเยอะ เพราะความใช้พลังงานค่อนข้างเปลือง ใครที่จะซื้อรุ่นนี้มือสองอาจจะต้องพิจารณาข้อนี้เป็นสำคัญ
ทราบกันดีว่ารถเก่า อะไหล่และค่าดูแลรักษาต่าง ๆ ราคาดีดตัวขึ้นหลายเท่าจากรถปกติ เนื่องจากหายาก แถมอะไหล่บางตัวเลิกผลิตไปแล้วก็มี รวมถึงการซ่อมบำรุงจำเป็นต้องใช้ช่างที่มีฝีมือเฉพาะ ดังนั้น อาจจะต้องทำใจเรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นกัน
การที่ช่วงล่างแน่น ไม่ได้หมายความว่า อัตราการเร่งสปีดจะดีตามไปด้วย ใครที่เป็นสายใจร้อน ชอบซิ่ง ชอบแซง อาจจะหงุดหงิดใจได้ กว่าที่ความเร็วจะขึ้นไปแตะที่ 100 กม./ชม. อาจจะใช้เวลาหลายวินาทีได้
สรุปราคามือสอง
จาก 3 เจเนอเรชันที่มีการเปิดตัวในประเทศไทย ในตอนนี้ เจเนอเรชันที่ 1 รหัสตัวถัง A31 กำลังเริ่มกลับมาเป็นที่ตามหาของเหล่าบรรดานักซิ่งและนักสะสมรถกันแล้ว เนื่องจากเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นท้าย ๆ ของ Nissan หลายคนต่างตามหารถรุ่นนี้เพื่อไปทำเป็นรถดริฟท์ หรือบางคนก็ชอบในรูปร่างแบบสปอร์ต โค้งมน โฉบเฉี่ยว ซึ่งเป็นตัวแทนของการออกแบบในยุค 90s อย่างแท้จริง ส่วนอีกสองเจเนอเรชัน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่ตามหาของเหล่าบรรดานักซิ่งมากนัก เนื่องจากรูปโฉมที่ดูภูมิฐานมากขึ้น แต่ถือว่าในตลาดรถมือสองนั้น ราคาของ Nissan Cefiro ก็ยังน่าสนใจอยู่ดี หลายคันมีราคาไม่ถึง 100,000 บาทด้วยซ้ำ ประกอบกับศูนย์บริการที่มีอยู่ทั่วประเทศ และเครื่องยนต์ Nissan ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ทำให้รถรุ่นนี้ยังคงเป็นที่ตามหาในตลาดรถมือสองอยู่ หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 1990
Nissan Cefiro รุ่นแรก หรือที่รู้จักกันในนาม A31 เปิดตัวในเดือนมีนาคม 1990 เป็นรถที่สร้างความฮือฮาและกระแสได้ดีพอสมควร เพราะในตอนนั้น Nissan Cefiro คือรถที่ออกแบบมาเพื่อเน้นสมรรถนะในการขับขี่ มากกว่าความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ดังนั้นรถคันนี้จึงถูกใจขาซิ่ง ที่ต้องการรถขนาดกลางถึงใหญ่ แต่ไม่ต้องการรถที่ดูน่าเบื่อ และภูมิฐานจนเกินไป
เครื่องยนต์แบบ 6 สูบ 2000 CC กับขุมพลัง 121 แรงม้า ให้สมรรถนะที่ดีในการขับขี่ รวมถึงช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อที่เรียกว่า Multi Link ที่มีตัวยึดหลายแห่ง ทำให้สามารถปรับมุมองศาได้หลากหลาย ส่งผลให้ช่วงล่างสามารถรับแรงกระแทกได้ดีมากยิ่งขึ้น และทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นนั่นเอง
แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นการติดตั้งระบบโซน่าร์หน้ารถ ที่จะส่งสัญญาณไปสำรวจถนนด้านหน้า เพื่อดูว่าพื้นผิวถนนเป็นอย่างไร จากนั้นข้อมูลจะถูกนำมาประมวลผลเพื่อปรับน้ำหนักพวงมาลัย และช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวด้านหน้า เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะและสร้างความฮือฮาในตอนนั้นเป็นอย่างมาก
ในปี 1992 มีการนำเครื่องแบบ 24 วาล์วเข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม และมีการ Minor Change ในปี 1994 ด้วยกระจังหน้าและไฟหลังที่ทันสมัยมากขึ้น ก่อนที่เจเนอเรชันที่ 1 จะถูกแทนที่ด้วยเจเนอเรชันที่ 2 ในปี 1996
ในปัจจุบัน Nissan Cefiro รุ่น A31 เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งโดยเฉพาะกับหมู่ขาซิ่งและขาดริฟท์ทั้งหลาย เพราะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ง่ายต่อการแต่งและดัดแปลง ทำให้ในตลาดมือสอง ราคาของรถรุ่นนี้กำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใครที่อยากเป็นเจ้าของคงจะต้องรีบหาจับจองกันหน่อย นอกจากนี้ผู้ที่ชื่นชอบรถหลายคนยังมองว่า Nissan Cefiro รุ่นนี้คือหนึ่งในรถในตำนานจากค่าย Nissan เลยทีเดียว
รุ่นปี 1996
ในเจเนอเรชันที่ 2 รหัส A32 นับว่าเป็นการหักปากกาเซียนก็ว่าได้ เพราะจากรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวเพรียวลม Nissan Cefiro ในเจเนอเรชันนี้กลับเป็นรถ 4 ประตูซีดาน ที่แลดูภูมิฐาน โอ่อ่ามากขึ้น และเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็นการขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งแม้จะทำให้หลายคนผิดหวัง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือพื้นที่ห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้น และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังถูกเปลี่ยนมาเป็นเครื่อง V6 รหัส VQ ที่ได้รับรางวัลมากมายจากทั่วโลก ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลมากขึ้น เลือกได้ตั้งแต่ความจุกระบอกสูบ 2000 หรือ 3000 CC การตกแต่งภายในก็ดูหรูหรา เพราะคราวนี้ Nissan ต้องการให้รถรุ่นนี้สามารถเจาะกลุ่มตลาดรถผู้บริหาร แข่งกับ Honda Accord และ Toyota Camry ในขณะนั้นได้นั่นเอง และถือเป็นรุ่นที่มีการ Minor Change อยู่หลายครั้ง
รุ่นปี 2001
ในเจเนอเรชันที่ 3 รหัส A33 Nissan ต้อนรับสหัสวรรษใหม่ด้วย Nissan Cefiro ที่มีตัวถังโอ่โถง กว้างขวางมากขึ้น ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ และไม้วอลนัท เรียกได้ว่าเป็น Exclusive Saloon ที่ยังคงเจาะตลาดรถผู้บริหารแบบเต็มตัว และมีการออกมาถึง 3 รุ่นย่อย
ส่วนเครื่องยนต์ยังคงใช้เครื่องยนต์แบบ V6 รหัส VQ อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ขึ้นชื่อว่าขับทางไกลสนุกมาก โดยเครื่องขนาด 3000 CC นั้นให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 220 แรงม้าเลยทีเดียว และ Nissan Cefiro รุ่นนี้มีการ Minor Change 2 ครั้งก่อนที่จะมีการแทนที่รถรุ่นนี้ด้วย Nissan Teana แทน
Nissan Cefiro เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Nissan Cefiro
Nissan Cefiro เป็นรถมือสองอีกคันที่น่าจับตามอง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น อาจจะต้องมองเป็นสองรุ่นใหญ่ ๆ ตามลักษณะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
รุ่นแรกคือเจเนอเรชันแรก รหัส A31 ที่เหมาะกับสายซิ่งที่กำลังมองหารถขับเคลื่อนล้อหลัง หรือคนที่อยากได้รถมาแต่ง เพราะอุปกรณ์แต่งของรถรุ่นนี้มีเยอะมาก และสามารถหาได้ง่าย อีกทั้งเครื่องยนต์แบบ RB20 ยังสามารถนำมาปรับแต่ง หรือยกเครื่องใหม่ก็ทำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ในอนาคตรถรุ่นนี้ยังมีศักยภาพสูงที่ราคาจะสูงขึ้น ตามความต้องการในตลาดที่สูงขึ้นอยู่ทุกวัน
รุ่นที่สองคือเจเนอเรชันสอง และสาม ที่ตัวรถมีความภูมิฐาน โอ่โถง และเน้นความหรูหราสะดวกสบายสไตล์รถผู้บริหาร ด้วยราคาที่ไม่สูงมากประกอบกับเครื่องยนต์ V6 ที่ให้สมรรถนะที่ดี โดยเฉพาะเวลาขับทางไกล ทำให้ Nissan Cefiro เหมาะกับผู้ที่กำลังหารถมือสองแบบซีดานขนาดกลางถึงใหญ่ ซึ่งเน้นความสบายในการขับขี่เป็นหลัก
