Mercedes-Benz S-Class รถยนต์ซีดานสุดหรู พี่ใหญ่สุดของค่ายดาว 3 แฉก รวมถึงยังเป็นเรือธงของ Mercedes-Benz อีกด้วย โดยมีประวัติศาสตร์การเดินทางที่แสนยาวนาน เริ่มต้นผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1972 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นรถยนต์ซีดานระดับหรูหราขายดีที่สุดในโลก
ที่มาของคำว่า S-Class โดยตัวอักษร S มาจากคำว่า Sonderklasse ในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า “Special Class” ซี่งมีความหมายที่ตรงตัวกับความพิเศษของรถยนต์คลาสนี้ เรามาทำความรู้จักกับแต่ละรุ่นของ S-Class กันเลยดีกว่าว่ามีความพิเศษและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
Mercedes Benz S-Class รุ่นนี้ มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง เพราะทุกเบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย ปรับเอนนอนได้ บางรุ่นมาพร้อมระบบนวด 6 ระดับ จะนั่งหรือนอนหลับก็สบายตลอดการเดินทาง มีพื้นที่ได้เหยียดขาแบบเข่าไม่ติด เดินทางในเมืองก็ง่าย ออกต่างจังหวัดก็สะดวก
ดีไซน์หรูหราที่มาพร้อมความทันสมัย โดดเด่นด้วยประตูแบบ Seamless door handles หรือที่เรียกกันว่าประตูแบบไร้รอยต่อ อธิบายง่าย ๆ คือเวลาประตูรถถูกล็อก ตัวประตูจะเสมอเป็นระนาบเดียวกับตัวรถแบบไปเลย เป็นหนึ่งในนวัตกรรมการออกแบบของ Benz ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ขึ้นชื่อว่า Mercedes Benz แล้ว ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ค่อนข้างมั่นใจและวางใจได้ มีให้แบบครบครันในเรื่องพื้นฐาน โดยความพิเศษของรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ อย่างตัว Evasive Steering Assist ปรับตัวรถให้กลับมาในเลนหากมีเหตุไม่คาดคิด รวมถึงระบบการหยุดรถฉุกเฉินที่จะทำงาน ไปจนถึงระบบ Exit Warning ที่ช่วยเตือนเวลาเราจะเปิดประตูรถว่ามีสิ่งกีดขวางหรือไม่
เป็นหนึ่งในข้อเสียที่พ่วงมากับข้อดีด้านบน ความที่ Mercedes Benz S-Class ให้ความสำคัญกับขนาดของห้องโดยสาร ทำให้ตัวรถมีขนาดใหญ่ ซอกแซกในเมืองค่อนข้างยาก บางครั้งอาจทำให้หาที่จอดลำบากด้วยเช่นกัน
ด้วยความที่ Mercedes Benz S-Class ค่อนข้างครบเครื่องและครบครันในทุกฟังก์ชัน ยิ่งในรุ่นหลัง ๆ จัดเต็มทุกความสะดวกสบายรวมเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมทุกด้าน ราคาเริ่มต้นของรุ่นนี้จึงถือว่ามาแรงแซงแบรนด์คู่แข่ง ตีเป็นเลขกลม ๆ อยู่ที่ 7 ล้านบาท
ข้อนี้เป็นสิ่งที่คนรัก Mercedes Benz ทั้งหลายน่าจะทำใจก่อนซื้อเป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นรถหรู ค่าดูแล maintenance ต่าง ๆ ย่อมแพงตามไปด้วย รวมถึงค่าอะไหล่รถ ที่ต้องใช้ส่วนประกอบที่พรีเมียมขึ้นกว่ารถเก๋งทั่วไป เป็นรายจ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สรุปราคามือสอง
Mercedes-Benz S-Class ซีดานสุดหรูที่ต้องบอกเลยว่าเหมาะสำหรับเจ้าของกิจการและผู้บริหารระดับสูง เพราะด้วยความที่ตัวรถออกแบบมาอย่างหรูหรา เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ในส่วนของราคามือสองของรถรุ่นปีล่าสุดนั้น ต้องบอกว่ามีราคาที่สูงอยู่พอสมควร สำหรับสาวกมือสองอาจจะต้องรออีกสักนิด เพราะว่าเมื่อไหร่ที่ Mercedes-Benz มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว เจอเนอเรชันก่อน หรือ รุ่นปีที่ผลิตก่อนหน้านี้ ราคาก็จะลดลงมาจากเดิมพอสมควรเลยทีเดียว จุดนี้อาจจะทำให้คุณได้มาครอบครองในราคาที่สบายกระเป๋าอยู่พอสมควร หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 1972
หลักจากที่ช่วงปีก่อนหน้านี้ Mercedes-Benz ได้ออกมาซีรีส์รถมาอย่างมากมาย จนมาถึงปี 1972 ก็ได้ถือกำเนิด S-Class เป็นครั้งแรกกับซีรีส์ 116 ที่โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัย ตั้งแต่ตัวถังเชื้อเพลิงบริเวณเพลาหลังเพื่อป้องกันในการชน พวงมาลัยนิรภัยแบบสี่ก้าน กระจกมองข้างเคลือบสารกันคราบ ไฟหน้าขนาดใหญ่ รวมถึงไฟเลี้ยวที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
รุ่นปี 1979
Mercedes-Benz S-Class รหัสตัวถัง w126 ได้สร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้ง ด้วยการปรับปรุงดีไซน์ที่เรียกได้ว่าปรับกันแบบยกคัน เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวรถให้เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงลดน้ำหนักของตัวรถ ชูจุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยอีกเช่นเคยกับตัวโครงสร้างถังแบบใหม่ ระบบถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัยที่ถูกออกแบบให้กระชับเข้ากับตัวผู้โดยสาร
รุ่นปี 1991
เมื่อผ่านเข้าสู่ยุค 90s วิศวกรของค่ายได้เน้นไปที่เรื่องของความสะดวกสบายสูงสุด ทำให้ S-Class รหัสตัวถัง w140 รุ่นปี 1991 เต็มไปด้วยฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกสบาย ไล่ไปตั้งแต่ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง หน้าต่างด้านข้างที่ทำจากกระจกสองชั้น ช่องอากาศลดความชื้น เพื่อกันเสียงเข้าและลดฝ้าที่เกิดกับกระจก รวมถึงระบบความปลอดภัย Electronic Stability Program เพื่อให้กรควบคุมรถนั้นเสถียรภาพมากที่สุด
รุ่นปี 1998
S-Class รหัสตัวถัง w220 เปิดตัวในปี 1998 ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีใส่เพิ่มเข้าไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Airmatic, หน้าจอควบคุมและแสดงผล ตลอดจนระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ 4Matic ที่ช่วยให้รถยึดติดกับพื้นถนนได้ในทุกสภาพพื้นผิว
รุ่นปี 2005
รหัสตัวถัง w221 ในยุคนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มีระบบช่วยในการขับขี่อย่าง Blind Spot Assist, Lane Keeping, Speed Limit Assist และ Active Body Control หรือระบบช่วยควบคุมตัวรถให้ทรงตัวได้เสถียรภาพ ก็ต้องบอกเลยว่าเทคโนโลยีที่ซีรีส์นี้มีนั้นดูล้ำสมัยสุดสำหรับในยุคนั้น
รุ่นปี 2013
ส่วนในช่วงปี 2013 ตลอดมาถึงปัจจุบันนี้ S-Class ได้เน้นการพัฒนาในเรื่องใหญ่ ๆ มากถึง 3 ด้านด้วยกัน คือ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ การใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และความหรูหราของตัวรถทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงฟังก์ชันพิเศษที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
Mercedes-Benz S-Class เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Mercedes-Benz S-Class
Mercedes-Benz S-Class เรียกได้ว่าคือรถยนต์สุดหรู อันเป็นที่สุดแห่งนิยามของความสมบูรณ์แบบ ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในตลาดบ้านเรา สามารถพบเห็นได้ตามท้องถนน เพราะด้วยความหรูหราที่ลงตัว ผสมผสานกับเทคโนโยีและฟังก์ชันที่คอยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร จึงไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดทำไม S-Class ถึงเป็นที่จับตามองไปทั่วโลกที่ระดับผู้บริหารหลายคนเลือกใช้เป็นรถคู่ใจ