สำหรับ Chevrolet Colorado นั้น สร้างความฮือฮาได้พอสมควรตอนเปิดตัว เนื่องจากเป็นรถกระบะที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างไปจากรถกระบะค่ายอื่น ดูสมบุกสมบันสไตล์รถกระบะอเมริกัน มาพร้อมกับออปชันต่างๆ ที่เทียบเท่าหรือดีกว่าคู่แข่งในบางรุ่น และเครื่องยนต์ที่แรงให้กำลังสูง ตอบโจทย์คนไทยที่กำลังมองหารถกระบะ 1 ตัน ที่ทำออกมาในสไตล์อเมริกันอย่างแท้จริง
หลังจากที่เจเนอเรชั่นที่ 1 เผยโฉมในประเทศไทยในปี 2004 มีการออกรุ่นย่อยต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ อย่างในปี 2006 ก็มีการเพิ่มเทคโนโลยี Diff Lock เข้ามา ช่วยในเรื่องการขับขี่ในทางออฟโรด ส่วนการ Minor Change เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2008 จนกระทั่งปี 2011 มีการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ กลายเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 และมีการ Minor Change และพัฒนาเครื่องยนต์อีกหลายครั้ง
ปัจจุบัน Chevrolet ไม่ได้ทำตลาดในไทยแล้ว แต่เนื่องจาก Colorado ใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกับ Isuzu ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ GM เช่นเดียวกัน ทำให้อะไหล่สามารถหาได้ในตลาดทั่วไป และอู่ก็สามารถซ่อม Colorado ได้สบายๆ นอกจากนี้ศูนย์บริการหลังการขายของ Chevrolet ก็ยังคงมีอยู่ในไทยอีกด้วย
สรุปราคามือสอง
Chevrolet Colorado ในตลาดมือสองมีตัวเลือกเยอะ แม้ราคาจะตกลงจากมือหนึ่งค่อนข้างมาก เนื่องจาก Chevrolet อาจจะไม่ได้เป็นแบรนด์ที่นิยมมากนัก แต่นี่คือข้อดี สำหรับคนที่ต้องการหารถรุ่นนี้ในตลาดมือสอง ก่อนที่จะเลือกซื้อ Chevrolet Colorado ระลึกไว้เสมอว่ารถรุ่นนี้มีหลายเครื่องยนต์ หลายสเปคมาก ทั้งระบบเกียร์ ระบบขับเคลื่อน และขนาดของที่นั่งด้านหลังคนขับ ดังนั้นขอให้เลือกรถที่เหมาะกับคุณมากที่สุด เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อาจจะมีราคาแพง แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ ก็ควรจะมีติดไว้ หรือระบบ Diff Lock ที่มีประโยชน์มากในการขับขี่ทางออฟโรด แต่จะมีมาให้ในรถที่วางขายปลายปี 2013 เป็นต้นไปเท่านั้น ทางที่ดีควรดูคู่มือที่ติดมากับรถคันนั้นเลยจะดีที่สุด หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2004
เจเนอเรชันที่ 1 ของ Chevrolet Colorado มีฉายาว่า “รุ่นตาสองชั้น” หรือรุ่น 4 ตา จากการที่ตัวรถมีไฟหน้า 4 ดวง ข้างละ 2 ดวง เป็นการออกแบบรถกระบะที่ฉีกแนวไปจากรถกระบะทั่วไป เมื่อนำมารวมกับเส้นโครเมียมคาดตรงกลางกระจังหน้าพร้อมสัญลักษณ์ “โบว์ไทด์ สีทอง” ทำให้ทุกอย่างยิ่งดูลงตัวเข้าไปอีก ปัจจุบันเจเนอเรชันแรก เริ่มเป็นที่เสาะหาของนักเล่นรถแล้ว ด้วยรูปทรงและการออกแบบที่ดูคลาสสิคนั่นเอง
ที่สำคัญคือในเจเนอเรชันนี้การพัฒนา Chevrolet ทำร่วมกับ Isuzu D Max ทำให้มีการแชร์ชิ้นส่วนร่วมกันระหว่างรถยนต์ทั้งสองรุ่นเกือบทั้งหมด ทำให้การบำรุงรักษาทำได้ง่าย และราคาถูก
สำหรับ Chevrolet Colorado เจเนอเรชันที่ 1 มีเครื่องยนต์สองความจุ คือ 2.5 ลิตร และ 3.0 ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ และสามารถเลือกได้ว่าอยากได้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ และมีทั้งแบบ C Cap 4 ประตู, X Cab 2 ประตู และ S Cab 2 ประตูที่มีที่นั่งด้านหลังเล็กกว่าแบบ X Cab
ต่อมาในปี 2008 มีการปรับโฉมครั้งแรก พร้อมกระจังหน้า ไฟหน้า และไฟท้ายดีไซน์ใหม่ โดยรุ่นนี้มีฉายาว่า “ตาหวาน” พร้อมห้องโดยสารที่ออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น และในปี 2009 มีการออกรุ่นที่มีการติดตั้งระบบก๊าซ CNG มาจากโรงงาน เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าเพิ่มเติม ส่วนการปรับโฉมครั้งสุดท้ายสำหรับเจเนอเรชั่นแรกเกิดขึ้นในปี 2010 สำหรับ Chevrolet Colorado เจเนอเรชันที่ 1 รุ่นปี 2014 เริ่มต้น 149,000 บาท
รุ่นปี 2011
เจเนอเรชันที่ 2 เปิดตัวในประเทศไทยช่วงปลายปี 2011 โดยตัวรถออกแบบบน Platform เดิม แต่มีการออกแบบภายนอกทุกอย่างใหม่หมด เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์ในการเป็น Global Car อย่างจริงจัง
การเปลี่ยนโฉมของจะเห็นได้ชัดจากกระจังหน้าที่เป็นแบบ Dual Port มี 2 ชั้น ส่วนไฟหน้าก็กลายเป็นไฟ 2 ดวงธรรมดา แต่ยังคงมีเส้นคาดกลางกระจังหน้า ตัวรถก็ยังคงความบึกบึน สมส่วน ในสไตล์รถอเมริกัน แต่มีการเพิ่มเส้นสายที่โค้งมนเข้ามามากขึ้น เพื่อให้เกิดความซอฟต์ลง
ส่วนภายในก็ได้รับการออกแบบใหม่โดยคอนเซปต์ Dual Cockpit ที่เน้นให้ด้านหน้าของผู้โดยสารโปร่งโล่งสบาย คอนโซลและปุ่ม รวมไปถึงสวิชต์ต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย โดยเฉพาะแผงวงกลมที่คอนโซลกลางให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในรถยนต์พรีเมียมเลยทีเดียว
Colorado เจเนอเรชันที่ 2 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Duramax 4 สูบ 16 วาล์ว มีให้เลือกสองขนาดคือ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร พร้อมกับติดตั้งระบบ Turbo เพื่อเพิ่มกำลังของเครื่องเวลาต้องลากสัมภาระหนักๆ มาให้ด้วย ในปี 2013 มีการอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์ Duramax II ให้กำลังที่แรงกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้ Chevrolet Colorado กลายมาเป็นหนึ่งในรถกระบะที่แรงที่สุดในตลาด ณ เวลานั้น
ต่อมาในปี 2016 มีการทำ Big Minor Change โดยมีการออกแบบเส้นสายภายนอกใหม่ มีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัยมากขึ้น พร้อมยกตัวรถให้สูงขึ้นอีกด้วย และมีการเพิ่มรุ่น High Country สำหรับ Chevrolet Colorado เจเนอเรชันที่ 2 รุ่นปี 2018 เริ่มต้น 199,000 บาท
Chevrolet Colorado เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Chevrolet Colorado
สำหรับรถกระบะ Chevrolet Colorado นับเป็นรถกระบะทางเลือก สำหรับผู้ที่กำลังหารถกระบะสักคันไว้ใช้ แต่เบื่อที่จะใช้แบรนด์ญี่ปุ่นที่มีเต็มท้องถนนเมืองไทย ด้วยการออกแบบที่แตกต่างไปจากรถกระบะรุ่นอื่นๆ มีความบึกบึน แข็งแกร่งสไตล์อเมริกัน คือ จุดขายหลักของ Chevrolet Colorado นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับรุ่นย่อยมากมาย ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์หลากหลายแบบ ออปชั่นในรถก็มีให้เลือกเยอะ
นอกจากนี้ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่งแต่อย่างใด แม้ว่าปัจจุบัน Chevrolet จะไม่ได้มีการทำตลาดในเมืองไทยแล้ว แต่อะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆ สามารถหาได้ทั่วไป ช่างตามอู่คุณภาพก็ซ่อมได้ ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด หากใครสนใจรถกระบะขับดี เกาะถนน เครื่องทรงพลังในสไตล์อเมริกัน Chevrolet Colorado นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว