Suzuki Swift ที่เปิดตัวในรูปแบบของรถคอนเซปต์เป็นครั้งแรกในปี 2002 ที่ Paris Motor Show ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถจักรยานยนต์ Big Bike และรถแข่งวิบากหลาย ๆ รุ่นของ Suzuki และเปิดโฉมที่พร้อมขายเป็นครั้งแรกในปี 2004
ในปี 2006-2007 มีการนำเข้า Suzuki Swift เข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งด้วยอัตราภาษีที่หฤโหด ทำให้ราคาขายอยู่ที่ 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งทำให้ยอดขายนั้นเป็นเลขหลักหน่วยต่อเดือน จุดเปลี่ยนของ Suzuki Swift ในประเทศไทยคือ เมื่อเริ่มมีการนำ Suzuki Swift มาประกอบที่โรงงานที่ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศไทยจึงถือโอกาสนำเจ้า Swift เข้ามาขายในปี 2009 โดยมีราคาอยู่ที่ 5 แสนปลาย ๆ ไปจนถึง 6 แสนกลาง ๆ ลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
หลังจากเปิดตัวในประเทศไทยได้ไม่นาน ยอดจองของ Swift พุ่งขึ้นเหมือนจรวดนาซ่า ทำให้ลูกค้าบางคนต้องรอรถนานถึงเกือบปีเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุนั้น นอกจากจะมาจากการทำการตลาดที่ชาญฉลาดแล้ว ยังมาจากตัวของผลิตภัณฑ์เอง ที่หลายคนต่างก็ยกนิ้วให้ว่า นี่คือรถที่แสดงให้เห็นว่า ถ้าพวกเขาพยายามแล้ว Suzuki ก็สามารถผลิตรถที่ยอดเยี่ยมได้ ไม่แพ้แม้กระทั่งแบรนด์ดังจากยุโรป
Suzuki Swift เป็นหนึ่งในรถ Eco Car ที่ราคาย่อมเยา ไม่จำเป็นต้องมีรายได้สูงมากก็สามารถเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ได้
เช่น ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบกุญแจนิรภัย และระบบเบรก ABS/ EBD
เพราะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ทำให้คุณสามารถใช้งานในตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบาย
ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นรถรุ่นที่เข้ามาตั้งแต่ปี 2010
ประมาณ 13-16 กิโลเมตร/ลิตร
เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ สามารถบรรจุคนได้สูงสุดเพียง 5 คนเท่านั้น
โดยเฉพาะในการออกตัวช่วงต้นของ Suzuki Swift อาจรู้สึกถึงความอืดเล็กน้อย แต่ก็นับว่าไม่ได้ช้าสักเท่าไร
ทำให้ถ้าหากมีการวิ่งบนพื้นที่ขรุขระ ผู้โดยสารอาจรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนบ้างเล็กน้อย
สรุปราคามือสอง
Suzuki Swift ในตลาดมือสอง มีหลายคันมาก หลากหลายออปชั่น หลกหลายตัวเลือก หลากหลายสภาพ เรียกได้ว่ามีให้เลือกกันแบบไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว ซึ่งข้อดีคือจะเกิดการแข่งขันในตลาดมือสองที่สูงมาก ทำให้ราคาของ Swift ในตลาดมือสองน่าคบหาเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้ว รถที่มีขายในตลาดจะเป็นรถปี 2013 เป็นต้นไป หรือก็คือเจเนอเรชั่นที่ 2 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Suzuki Swift เพราะเป็นรุ่นที่ Suzuki ทำตลาดรถรุ่นนี้ในฐานะของ Eco Car และที่สำคัญ หลายคันมีการนำไปแต่ง เช่น เปลี่ยนกันชน ใส่สเกริ์ต ปรับจูนเครื่องให้แรงขึ้น เป็นต้น ดังนั้นไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ เลือกรถที่เหมาะกับคุณมากที่สุด หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2009
สำหรับเจเนอเรชันนี้เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2009 ตอนที่รถรุ่นนี้กำลังจะเลิกจำหน่ายในตลาดโลกแล้ว โดยมาพร้อมกับห้องโดยสารที่กว้างขวางพอประมาณ สามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ หน้าปัดถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ดูเรียบหรู และมีความสปอร์ต
แต่สิ่งที่ทำให้ Suzuki Swfit โดดเด่นกว่าใครคือเรื่องของเครื่องยนต์และสมรรถนะในการขับขี่ โดยทาง Suzuki กล่าวไว้ว่าจากการสำรวจผู้บริโภคพบว่า ลูกค้าส่วนมากอยากได้รถคันเล็กที่ขับสนุก คล่องตัว ตอบสนองเร้าใจ ให้ความตื่นเต้นในการขับขี่ ดังนั้นเครื่องยนต์ จึงเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ มาพร้อมกับพวงมาลัยและช่วงล่างที่ถูกเซทมา ให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ สนุก บังคับควบคุมได้อย่างใจนึก จนกลายมาเป็นจุดที่เด่นมากของ Suzuki Swift ที่ยากที่จะหาใครมาเทียบได้
ความสำเร็จของรถรุ่นนี้ในประเทศไทย คงจะไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะยอดจองนั้นสูงมากถึงขนาดที่ผู้บริหาร Suzuki ของไทย ต้องขอเพิ่มกำลังการผลิตรถรุ่นนี้ เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ให้ทันตามความต้องการของลูกค้า
รุ่นปี 2013
มาถึงเจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งโจทย์ที่หินมาของ Suzuki คือจะทำยังไงที่จะรักษาความเป็น Swift และยอดขายเอาไว้ให้ได้ ดังนั้นคอนเซปต์ของ Suzuki Swift ในเจเนอเรชันนี้ก็คือ “More Swift!” โดยทุกอย่างของรถจะต้องดีขึ้น โดยมีกลิ่นอายความสนุกของ Swift รุ่นเก่าอยู่
สุดท้ายแล้ว Suzuki Swift ในเจเนอเรชันนี้เลยมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เริ่มจากดวงไฟที่เหมือนตาเหยี่ยว มีความโค้งแล้วไปสุดที่ปลายแหลม รับด้วยไฟท้ายที่มีลักษณะเดียวกัน ซึ่งเป็นการออกแบบที่เห็นได้ชัดว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Swift รุ่นแรก พร้อมซุ้มล้อและกันชนหน้าหลังที่ทำให้รถดูภูมิฐานมากขึ้น และสร้างปรากฎการณ์ในประเทศไทยด้วยการเป็นรถยนต์ Eco Car คันแรก ๆ ของประเทศ
นอกจากนี้ภายในยังได้รับการอัปเกรดให้ดูสปอร์ต และพรีเมี่ยมมากขึ้น มีการใช้วัสดุเคลือบเงินเข้ามาตกแต่งบ้าง ส่วนเครื่องยนต์ก็เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1200 CC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน และเกียร์อัตโนมัติ CVT และแน่นอนว่าการขับขี่ที่สนุกสนานของ Swift ในรุ่นแรก ก็ได้รับการส่งต่อมายัง Swift รุ่นนี้ อย่างไม่มีบิดพริ้ว มาพร้อมกับตัวถังแบบใหม่ที่ทนทานกว่าเดิม การันตีด้วยคะแนน 5 ดาวจากการทดสอบการชนของ Euro-N Cap อันแสนหฤโหด
แต่นอกจากการขึบขี่ที่สนุกสนานจากช่วงล่างที่เซทมาเป็นอย่างดีแล้ว Swift ในรุ่นนี้แก้ไขปัญหาของ Swift รุ่นแรกได้อย่างหมดสิ้น ในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ซึ่งต้องยกประโยชน์ให้กับเครื่องยนต์ 1200 CC ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดี
รุ่นปี 2017
และแล้วก็ถึงเวลาของเจเนอเรชันที่ 3 มาคราวนี้การออกแบบของ Swift ถูกกำหนดให้มีความสปอร์ต และดูสนุกสนานมากขึ้น โดยมีตัวถังที่่เตี้ย แต่กว้างกว่าเดิม มีเส้นสายที่ดูลื่นไหล ลงตัวมากขึ้น ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดเห็นจะเป็นกระจังหน้าแบบหกเหลี่ยม รับกับช่องว่างสีดำด้านล่างได้อย่างลงตัว เสาหลังคามีการใช้สีดำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ตกทอดมาจาก Swift รุ่นแรก มาพร้อมกับมือเปิดประตูหลังที่อยู่บริเวณด้านหลัง ส่วนไฟท้ายมีการใช้ไฟ LED เป็นรูปคล้ายตัว C ดูเก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใคร
ภายในห้องโดยสารก็ได้รับการแก้ไข มีการเพิ่มพื้นที่เหนือศีษะของผู้โดยสารด้านหลัง ส่วนแผงหน้าปัดก็ถูกออกแบบมาให้ดูสปอร์ต และดูล้ำสมัยมากขึ้น ช่องแอร์ตรงกลางเป็นวงกลม พร้อมพวงมาลับแบบ Multi Function ส่วนหน้าปัดของวัดรอบ และเข็มแสดงความเร็ว ถูกซ่อนเอาไว้ในกรอบลึก เหมือนรถสปอร์ตยุโรปในยุค 80s
และที่เป็นการปฏิวัติการออกแบบทั้งหมดคือ เจเนอเรชันนี้เป็น Swift รุ่นแรกที่ผลิตบนตัวถังใหม่ของ Suzuki คือ Platfporm Heartect ซึ่งมีน้ำหนักเบาขึ้น ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ส่วนเครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1200 CC แต่ว่าได้รับการพัฒนาใส่เทคโนโลยี Dual Jet ทำให้น้ำมันที่ฉีดเข้าห้องเครื่องละเอียดมากขึ้น เพื่ออัตราการเผาไหม้ที่ดีกว่าเดิม ในขณะที่ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะเดียวกัน มาพร้อมกับระบบ Idling Stop เพื่อเพิ่มความสามารถในการประหยัดน้ำมัน
ส่วนการขับขี่นั้น แม้จะมีแรงม้าเพียง 83 แรงม้า แต่อัตราเร่งยังเร้าใจ ตอบสนองได้ดั่งใจ เนื่องจากตัวถังที่เบาลง และเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่วนช่วงล่างและพวงมาลัยก็ยังถูกเซทให้ขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างมั่นใจ และล่าสุดมีการออกรุ่น Minor Change ออกมาในปี 2020 โดยมีการแต่งหน้าทาปากเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
Suzuki Swift เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Suzuki Swift
Suzuki Swift เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่พลิกฟื้นชีวิตของ Suzuki ในตลาดเมืองไทยเลยก็ว่าได้ จากที่แทบไม่เห็นรถยนต์ยี่ห้อนี้ในท้องถนนเมืองไทยเลย ตอนนี้เรากลับเห็น Suzuki Swift วิ่งอยู่เกลื่อนเมืองไปหมด
เห็นได้ชัดว่าแผนการของ Suzuki ที่จะปรับปรุงรถยนต์ของตัวเองให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกนั้น ประสบความสำเร็จอย่างดงาม เพราะ Suzuki Swift ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกมากมายจากนักวิจารณ์ทั่วโลก รวมถึงลูกค้าที่ชื่นชอบในรถรุ่นนี้ ทำให้เกิดการพูดกันแบบปากต่อปาก โดยจุดเด่นของ Swift คือการขับขี่ที่สนุก คล่องตัว ให้การตอบสนองที่เร้าใจ และที่สำคัญที่สุดคือพวงมาลัยและช่วงล่างที่ถูกเซทมาอย่างดีเยี่ยม
ข่าวดีของ Suzuki Swift อีกอย่างคือเป็นรถที่มีอุปกรณ์แต่งเยอะมาก ดังนั้นนี่คือรถที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการแต่งรถเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหารถคันเล็ก ๆ ซักคัน ที่ให้สมรรถนะทางการขับขี่ที่ดีเยี่ยม คล่องตัว เร้าใจ แต่ประหยัดน้ำมันในระดับรถ Eco Car และมีตัวเลือกมากมายในตลาดมือสอง Suzuki Swift คือคำตอบของคุณอย่างแน่นอน
