Suzuki แบรนด์รถยนต์รุ่นเล็ก แต่คุณภาพไม่เล็กตามตัว เพราะในความเป็นจริงที่ไม่อิงเฉพาะแค่ในเมืองไทย ค่ายรถจากญี่ปุ่นแห่งนี้มีไลน์อุตสาหกรรมที่กว้างมาก ผลิตยานยนต์แทบจะครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, มอเตอร์ไซค์, เอทีวี, เรือ, เครื่องยนต์สันดาป, วีลแชร์ ฯลฯ จัดเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 9 ของโลก ส่วนใหญ่เน้นทำตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก และประสบความสำเร็จแบบพลิกประวัติการณ์จาก Swift อีโคคาร์หัวขบวนในยุคทองของ “รถยนต์คันแรก”
ในความเป็นจริง Suzuki ชื่อชั้นก็ไม่ได้โนเนมหรือแปลกใหม่กับคนไทย เพราะเคยเข้าทำตลาดมาแล้วเมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา วัยรุ่นในยุค Gen Y ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ผ่านโมเดลรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นยอดนิยมอย่าง คาริเบียน และ วีทาร่า ขวัญใจชาวออฟโรคตั้งแต่อดีต ซึ่งปัจจุบันยังมีการ ซื้อ-ขาย เปลี่ยนมือเจ้าของกันอยู่ไม่ขาด
โดยทาง บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น มองเห็นถึงความสำคัญและโอกาสในการลงทุนที่ประเทศไทย (อีกครั้ง) ซึ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญของรถญี่ปุ่นหลายแบรนด์ จึงได้ลงทุนก่อตั้ง บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อ 1 สิงหาคม 2011 และสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ในไทยซูซูกิมุ่งเน้นทำตลาดรถยนต์ขนาดเล็กมาโดยตลอด นับเป็นไฮไลท์โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ โดยชูจุดเด่นในเรื่องของราคาของรถยนต์แต่ละรุ่นที่สามารถเอื้อมถึงได้ และความประหยัดน้ำมันที่จัดอยู่ในเกณฑ์ดี
รถยนต์ของซูซูกิที่มีขายในไทย จะมีจุดเด่นในเรื่อง “ความประหยัดเชื้อเพลิง” เป็นหลัก และเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากเหล่านักขับขี่ยานยนต์เป็นจำนวนมาก โดยใช้พื้นฐานมาจากเครื่องยนต์เบนซิน พิกัดความจุ 1.0 - 1.5 ลิตร มอบอัตราเร่งดี ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมัน
ตลาดรถยนต์ของซูซูกิในไทยจะเน้นเจาะกลุ่มเฉพาะรถขนาดเล็กเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง 5 ประตู, รถซีดาน 4 ประตู, รถอเนกประสงค์ 5 ประตู และรถบรรทุกขนาดเล็ก 4 ล้อ ด้วยราคาในรุ่นเริ่มต้นที่ถูกมาก เช่น Suzuki Celerio รุ่น GA/MT ราคาเริ่มต้นเพียง 328,000 บาทเท่านั้น นับว่าเป็นราคาที่เข้าถึงลูกค้าง่าย เจาะกลุ่มนักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงาน ซึ่งกำลังมองหารถยนต์คันแรกด้วยราคาไม่แพง
สำหรับรถยนต์ที่เปิดยุคใหม่ให้ลูกค้าชาวไทยได้รู้จัก Suzuki มากขึ้น ก็คือ Swift นับเป็น Eco Car ตัวถัง 5 ประตู รูปโฉมทันสมัย ภายในกว้างขวาง ราคาคุ้มค่า อะไหล่หาง่าย สามารถนำไปแต่งเพิ่มได้หลากสไตล์ โดยในช่วงเปิดตัวได้ส่วนลดจากโครงการรถยนต์คันแรกอีกด้วย ทำให้ Suzuki Swift ขายดีและกลายเป็นรถเล็กยอดนิยมในไทยมาอย่างยาวนาน
ด้วยความที่แบรนด์ซูซูกิไม่ได้ขายรถครอบคลุมทุกเซกเมนท์ แต่ละโมเดลเปิดตัวและจำหน่ายยาวนาน จึงขาดความน่าสนใจในแง่มุมของนักลงทุนและผู้แทนจำหน่าย ทำให้มีโชว์รูมและศูนย์บริการค่อนข้างน้อย
จากปัจจัยหลักที่รถยนต์ซูซูกิมือหนึ่ง ซื้อตรงจากศูนย์บริการก็มีราคาที่ค่อนข้างถูกมากอยู่แล้ว เมื่อขายต่อเป็นรถมือสอง ราคาจึงถูกลงกว่าเดิมหลายเท่าตัว บางรุ่นราคารับซื้อมือสองน้อยสุดเริ่มต้นที่หลักหมื่นปลาย ๆ เท่านั้น
รถยนต์แต่ละรุ่นของซูซูกิเน้นทำตลาดด้วยความคุ้มค่า ในราคาที่ไม่แพง ทำให้รถ Suzuki ส่วนใหญ่เป็นออปชันพื้นฐานที่มีในรถทั่วไป ไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ มากนัก
แม้รถยนต์ของ Suzuki มีคุณภาพดีและราคาถูก แต่ก็เป็นแบรนด์รอง และไม่ได้เป็นผู้นำในตลาดเมืองไทย การตลาดและโปรโมชันจึงมีค่อนข้างน้อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากเปรียบเทียบราคากับคุณภาพ
สรุปราคารถยนต์มือสอง Suzuki
Suzuki มีรถมือสองที่น่าสนใจหลายรุ่น แม้ทั้งหมดเป็นรถขนาดเล็ก แต่กลับมีจุดเด่นในเรื่องราคาที่ไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับสมรรถนะและออปชัน ก็นับว่า “คุ้มค่า” ในระดับเกรด AAA และที่สำคัญในแต่ละรุ่น มีระยะเวลาทำตลาดค่อนข้างยาวนานมากกว่า 5 ปี อะไหล่เยอะ ตัวรถไม่ตกรุ่นเร็ว ราคาดี ซื้อง่าย ขายคล่อง ไม่ต้องหาข้อมูลเยอะ โดยทาง Kaidee Auto เรารวมข้อมูลให้หมดแล้ว
เป็นรถที่ได้รับความนิยมและมียอดขายสูงสุดของ Suzuki ซึ่งหากนับตามไลน์อัพการผลิตตั้งแต่ต้น มีทั้งหมด 4 เจเนอเรชัน แต่เข้าขายในไทยตั้งแจเนอเรชันที่ 2 - 4 รูปโฉมไม่แตกต่างกันมาก พร้อมทำตลาดในราคาที่เหมาะสมกับวัยเพิ่งเริ่มต้นทำงานอีกด้วย
Suzuki Swift เจเนอเรชัน 2 นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ช่วงปี 2010 มาพร้อมตัวถัง 5 ประตู รูปลักษณ์แปลกใหม่ พร้อมดีไซน์เร้าใจในแบบฉบับ Cubical Design มีความเป็นวัยรุ่น จำหน่าย 2 รุ่นย่อย GA และ GL ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน รหัส M15A ความจุ 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว จับคู่ระบบวาล์วแปลผัน VVT พละกำลัง 100 แรงม้า สำหรับเจเนอเรชันนี้ราคามือสอง เริ่มต้นที่ 198,000 บาท
Suzuki Swift เจเนอเรชัน 3 เปิดตัวและจำหน่ายในไทยตั้งแต่ปี 2012 โฉมนี้เป็นการผลิตจากโรงงานภายในประเทศ และเข้าสู่โครงการอีโคคาร์เต็มตัว มี 3 รุ่นย่อย GA, GL และ GLX ปรับเครื่องให้มีขนาดเล็กลง โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B ความจุ 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ใช้หัวฉีด MPI ให้กำลัง 91 แรงม้า และที่สำคัญนับเป็น Swift รุ่นที่ขายดีที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ขายดีและได้รับความนิยมมาก ปัจจุบันราคามือสองขายที่ 215,000 บาท
Suzuki Swift เจเนอเรชัน 4 เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในปี 2018 มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ แต่ยังคงดีไซน์ความเป็น Swift เอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง โฉมนี้มาพร้อมไฟและกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มี 4 รุ่นย่อย GL, GX, GLX และ GLX Navi ใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M ความจุ 1.2 ลิตร 4 สูบ พลังสูงสุด 83 แรงม้า ราคามือสอง Suzuki Swift เจเนอเรชัน 4 เริ่มต้นที่ 365,000 บาท
ยอดรถกระบะขนาดเล็ก ราคาไม่แพง ใช่งานคล่องตัว เหมาะกับธุรกิจระดับ SME หรือ การลงทุนในกลุ่ม Startup โดยเฉพาะการขายอาหารแบบฟู๊ดทรัค เปิดตัวในเมืองไทยครั้งแรกในเจเนอเรชัน 1 ปี 2011 แต่โฉมปัจจุบันเจเนอเรชัน 2 ปี 2019 จุดเด่นต้องยกให้เรื่องของราคา เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ให้ความประหยัดน้ำมัน ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา โฉมปัจจุบันออกห้าง เพียง 385,000 บาทเท่านั้น
Suzuki Carry เจเนอเรชัน 1 มีออปชันให้อยู่บ้าง แต่ไม่เยอะ เน้นขับขนส่งสินค้า บรรทุกได้พอประมาณ ทนทาน และคล่องตัวกว่ารถกระบะขนาดกลาง รูปลักษณ์พอสวย จัดอยู่ในกลุ่มรถกระบะตอนเดียว ที่สำคัญพื้นที่บรรทุกด้านหลังเปิดได้ถึง 3 ด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.6 ลิตร รหัส G16A พลัง 92 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ Suzuki Carry เจเนอเรชัน 1 รถมือสอง เริ่มต้น 87,000 บาท
Suzuki Carry เจเนอเรชัน 2 ปรับรูปโฉมให้ดูแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยังคงเป็นรถกระบะตอนเดียว แบบเปิดท้ายได้ถึง 3 ด้าน ด้านขุมกำลังเปลี่ยนใหม่ โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.4 ลิตร* รหัส K15B พละกำลังแรงขึ้นขยับเป็น 97 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ Suzuki Carry เจเนอเรชัน 2 รถมือสอง เริ่มต้น 325,000 บาท
รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในทุกรุ่น สมบุกสมบันและทนทานต่อการใช้งานสุดขั้ว ประสบความสำเร็จมากในประเทศไทย มาพร้อมสมรรถนะที่เป็นได้ทั้งรถตรวจการณ์ รถใช้งานในราชการทหาร และรถออฟโรดขวัญใจสายเที่ยวป่า ปัจจุบันหยุดทำตลาดมานานแล้ว แต่ยังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยมในวงการมือ 2 ซื้อใช้งานต่างจังหวัด ตามถิ่นทุรกันดารในชนบท
สำหรับ Suzuki Caribian มีปการปรับโฉมหลายครั้ง มีหลายรูปแบบตัวถัง แต่ยังคงพัฒนาโดยใช้พื้นฐานเดิม เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในไทยครั้งแรกปี 1982 ด้วยตัวถังแบบกระบะ 2 ประตู มี 4 ที่นั่ง ซึ่งพื้นที่ด้านหลังได้รับการต่อเติมหลังคาในแบบสเตชันแวกอน นิยมเรียกว่า “ตู้ปลา” ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1.3 ลิตร รหัส OHC 8V พลัง 70 แรงม้า
จากนั้นในปี 1993 ได้ขยายไลน์การผลิตให้กับ Caribian เผมโฉมรุ่น Sporty เป็นรถกระบะ 2 ประตู แบบมีแคปเดียว สำหรับขุมพลังการขับเคลื่อนของ Suzuki Caribian ตัว Sporty เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1.3 ลิตร รหัส OHC 8V พลัง 69 แรงม้า
Suzuki Caribian สภาพเดิมนับว่าหายากมาก (แต่ยังพอมี) เพราะส่วนใหญ่มีการปรับแต่งให้เข้ากับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชุดยกสูง หรือ แม้กระทั้งเปลี่ยนเครื่องยนต์ ในปัจจุบัน Suzuki Caribian ราคามือสอง ซื้อ - ขาย กันอยู่ที่ 125,000 บาท
บทสรุป Suzuki
Suzuki รถยนต์ขนาดเล็ก แม้ทุกรุ่นจะมาในร่างจิ๋ว แต่การันตีความแจ๋ว ได้รับการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสำหรับลูกค้าคนไทย ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การทำตลาดออกขายในราคาไม่แพง แต่ชื่อชั้นดีมาก มีคุณภาพน่าซื้อหา เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และที่สำคัญ Suzuki ในแต่ละรุ่นมีอายุการตลาดยาวนาน Model Change ไม่บ่อย และปรับไม่ค่อยเยอะ อะไหล่จึงใช้งานร่วมกันได้ ขายอยู่ในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ค่าบำรุงรักษาจึงไม่แพง
Suzuki มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยพร้อมให้บริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ดีที่สุดเหนือ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเปรียบเสมือนเป็นคนสำคัญของครอบครัวซูซูกิ และแบรนด์นี้นับเป็นอีกหนึ่ง “ทางเลือก” ที่น่าสนใจ จึงไม่ใช่ทางผ่านอย่างแน่นอน