แนวคิดในการทำรถ SUV ของ Porsche มาจากความต้องการในการทำกำไรให้กับบริษัท ซึ่งอยู่ในภ่าวะซบเซามาเป็นเวลานาน และหลังจากไปศึกษากลุ่มลูกค้าพบว่า ลูกค้าของ Porsche นั้น มักจะมีรถมากกว่า 1 คัน และหนึ่งในนั้นมักจะเป็นรถ SUV ดังนั้นทำไม Porsche ถึงจะไม่ทำรถ SUV เพื่อมาจับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้เสียเอง
หลังจากการรังสรรค์อยู่เป็นเวลานาน ด้วยความร่วมมือกับ VW Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ Porsche Cayenne เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2002 และกวาดยอดขายไปได้ถึง 275,000 คัน สำหรับเจนแรก จากนั้นมีการออกเจนสองออกมาในปี 2010 และเจนสามในปี 2018 และสามารถขยายตลาดจาก 40 ประเทศ เป็น 100 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีลักษณะถนนไม่ค่อยดีนัก
คอนเซปต์ของ Porsche Cayenne คือ SPREAD หมายถึงการกระจายความยืดหยุ่นของรถ นั่นคือรถจะต้องสามารถขับใช้งานในเมืองได้ ขับ Off-Road ได้ หรือแม้กระทั่งขับในสนามแข่งด้วยความเร็วสูงก็ต้องได้เช่นกัน ดังนั้นทำให้ Cayenne มีหลายอย่างที่แปลกไปจาก Porsche ทั่วไป ทั้งการใช้เครื่องยนต์ V8 ประตูที่มีถึง 4 ประตู ระบบการขับขี่แบบ Off-Road แต่แน่นอนการออกแบบหน้าตา และสัดส่วนของรถ ยังมีจิตวิญญาณของ Porsche 911 อย่างเต็มพิกัด เรียกได้ว่า มองปุ๊ปแล้วรู้เลยว่านี่คือ Signature Design ของ Porsche
สำหรับในประเทศไทย Porsche Cayenne ถือว่าได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการหารถ SUV หรูหราที่มีความแตกต่าง เห็นได้จากการที่เราสามารถเห็นรถรุ่นนี้วิ่งในถนนกรุงเทพฯ ได้บ่อยครั้ง และยอดขายในประเทศไทยในปี 2010 ก็สูงถึงกว่า 1000 คัน และในปัจจุบันได้มีการออกรุ่น Plug-In Hybrid ออกมาแล้วซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย
ด้วยการออกแบบที่ภายนอกเน้นความเรียบหรูแต่มีสไตล์ตั้งแต่ไฟหน้าอันโฉบเฉี่ยว ไปจนถึงกระจังท้าย
เมื่อเปรียบเทียบกับรถประเภทนี้ในรุ่นอื่น ๆ Porsche Cayenne นับว่ามีราคาที่ไม่สูงเท่าไรนัก
ด้วยระบบ Hybrid ที่มีขุมพลังอันดีเยี่ยม เห็นได้จากการชาร์จเพียงแค่ 4 ชั่วโมง แต่สามารถวิ่งได้มากถึง 35 กิโลเมตร ทำให้ถ้าหากคุณชาร์จในระยะเวลานานก็สามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวล
กว้างขวาง ไม่รู้สึกอึดอัดพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น ฝาท้ายระบบไฟฟ้า ประตูดูด และเบาะที่สามารถพับได้อย่างหลากหลาย เป็นต้น
ทำให้ผู้ใช้งานสามารถขับขี่ได้อย่างสบายใจ
โดยเฉพาะในจังหวัดที่นอกจากกรุงเทพฯ ทำให้ถ้าหากต้องการซ่อมบำรุงรถ Porsche Cayenne ก็ทำได้ยากกว่ารถแบรนด์อื่น ๆ อีกทั้งค่าใช้จ่ายด้านการบริการและอะไหล่ยังค่อนข้างสูงอีกด้วย
แทนที่จะเป็นระบบมาตรฐาน เช่น ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน และระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน เป็นต้น
สรุปราคามือสอง
Porsche Cayenne ในตลาดรถมือสองมีหลากหลายราคา และหลากหลายสภาพ มีผู้ที่ทำรถมือสองมืออาชีพมากมาย ที่มีการนำรถมือสองมาปรับแต่ง และซ่อมจนมีสภาพดีเหมือนมือหนึ่ง อีกทั้งในแต่ละรุ่นยังมีขนาดเครื่องยนต์ และน้ำมันที่ีรองรับแตกต่างกันไป รวมถึงแบบ Plug-In Hybrid ซึ่งกำลังได้รับความนิยม และมีราคาถูก เนื่องจากภาษีนำเข้าที่ถูกกว่า ดังนั้นผู้ซื้อควรจะต้องศึกษาข้อมูลรถให้ดีซักนิดนึงก่อน ว่ารุ่นไหนที่เหมาะกับความต้องการกันแน่ อีกอย่างที่ควรคำนึงถึงคืออะไหล่ และศูนย์บริการ แม้ว่า Porsche จะมีศูนย์บริการในไทยแล้ว แต่อาจจะไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ดังนั้นนี่เป็นอีกเรื่องที่ควรจะต้องนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อ Cayenne มือสองอีกประการหนึ่ง หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2003
Porsche Cayenne รถ 4 ประตู 5 ที่นั่งจาก Porsche โฉมแรกเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกที่งาน 2002 Paris Motor Show โดยนักวิจารณ์ต่างมีเสียงแตกต่างกันไป บ้างก็ว่านี่คือรถที่จะทำให้ Porsche ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลและตลาดรถยนต์ที่กว้างขึ้น แต่บางคนกลับมองว่าค่ายรถสปอร์ตที่หันมาทำรถ SUV แบบนี้จะไหวเหรอ
แต่อย่าลืมว่า Porsche ยังมีบริษัทแม่อย่าง Volkswagen คอยคุมอยู่ ดังนั้นเทคโนโลยีต่าง ๆ ย่อมสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ ทำให้สุดท้าย Cayenne ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี นักวิจารณ์หลายคนต่างบอกว่านี่คือ SUV ที่ฟีลลิ่งเหมือนรถสปอร์ตที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Porsche Cayenne ในรุ่นแรกนั้นใช้เครื่องยนต์ V8 ขุมพลังมหาศาล และนับเป็นครั้งแรกที่ Porsche หันหลับมาใช้เครื่องยนต์ V8 โดยตอนเปิดตัวนั้นมีสองรุ่นย่อยได้แก่ Cayenne S และ Cayenne Turbo และในปี 2008 มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้มีความสะอาด และประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งขยายตลาดโดยการนำเครื่องดีเซลมาจำหน่าย และมีเครื่องยนต์ขนาด V6 เข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกใช้อีกด้วย
รุ่นปี 2010
หลังจากทำตลาดมานาน 7 ปี Porsche ตัดสินใจเปิดตัว Cayenne เจนสอง ในงาน 2010 Geneva Motor Show ในรุ่นนี้ขนาดห้องโดยสารภายในกว้างขวางขึ้น ในขณะที่ตัวรถมีน้ำหนักเบาลงเนื่องจากการใช้วัสดุทางเลือกที่มีน้ำหนักเบาขึ้นนั่นเอง
เส้นสายภายนอกถูกทำให้ดูสวยงามและลงตัวมากขึ้น การตกแต่งภายในที่แน่นอนว่าดูเรียบหรู สไตล์รถระดับพรีเมี่ยม พร้อมระบบการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถืออย่างครบครัน และมีระบบที่น่าสนใจคือ Air Suspension ซึ่งเมื่อเปิดระบบ จะทำให้ตัวรถลดระดับลงมาเล็กน้อย พร้อมประตูห้องเก็บสัมภาระที่จะถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกในการนำของขึ้นเก็บบนรถ
ในประเทศไทยนั้น มีการจำหน่ายเจนสองอยู่ 5 รุ่นด้วยกันได้แก่ รุ่น Cayenne เป็นรุ่น Entry Level เครื่อง V6 ดีเซลเทอร์โบ จากนั้นเป็นรุ่น Cayenne S แบ่งเป็นเครื่อง V8 ดีเซลเทอร์โบและเครื่องเบนซิน V6 ต่อด้วยรุ่น Cayenne Turbo ที่ใช้เครื่องเบนซิน V8 เทอร์โบ และรุ่นสุดท้ายที่ได้รับความนิยมมากคือรุ่น Cayenne S E-Hybrid เนื่องจากภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ถูกกว่านั่นเอง
ในปี 2017 Porsche ได้สร้างกิจกรรมพิเศษด้วยการนำ Porsche Cayenne S Diesel มาลากจูงเครื่องบิน A380 ซึ่งสามารถทำได้แบบสบาย ๆ แสดงถึงสมรรถนะของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
รุ่นปี 2018
สำหรับเจเนอเรชันที่ 3 Porsche ยังคงต้องการออกแบบตัวรถให้ดูรู้ทันทีว่านี่คือรถแบรนด์ Porsche แต่ก็ยังต้องการให้รู้ว่านี่คือ Porsche Cayenne ทำให้สุดท้าย Cayenne ในเจเนอเรชันนี้มีหน้าตาล้ำสมัยมากขึ้น ในขณะที่ไฟท้าย LED ที่ถูกออกแบบให้เป็นเส้นเดียวคาดไปทั้งด้านหลัง ตามลักษณะการออกแบบของ Porsche รุ่นอื่น ๆ
ภายในก็เพิ่มความล้ำสมัยด้วยการเปลี่ยนปุ่มควบคุมต่าง ๆ ให้เป็นแบบ Touch ทั้งหมด เวลาดับเครื่องจะดูเหมือนแผงสีดำเรียบ ๆ แต่เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ไฟจะสว่างขึ้นมา คล้ายๆ กับหน้าปัดของ Cockpit เครื่องบิน นอกจากนี้การใช้วัสดุต่าง ๆ ยังคงความหรูหราและสปอร์ตพรีเมี่ยมไว้อย่างเต็มพิกัด
ในเจอเนอเรชัน 3 นั้นจะมีเครื่องยนต์หลากหลายแบบให้เลือกเช่นกัน เช่นรุ่น Cayenne จะเป็นเครื่องยนต์ V6 Twin Turbo ให้แรงม้าสูงถึง 440 แรงม้า หรือรุ่น Cayenne S ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 Turbo และแน่นอนมีรุ่น E-Hybrid ให้เลือกด้วย โดยจะมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Triptonic 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ Porsche Traction Management ที่จะคอยบาลานซ์แรงรถที่จ่ายไปยังเพลาคู่หน้าและคู่หลัง เพื่อช่วยในเรื่องการทรงตัวของรถให้ดีขึ้น และระบบเลี้ยว 4 ล้อ ช่วยในเรื่องวงเลี้ยวที่แคบ เพิ่มความคล่องตัวให้กับการขับขี่มากขึ้น
ในปี 2019 ทาง Porsche ได้เปิดตัว Porsche Cayenne Hybrid Coupe ขึ้น และในปี 2021 Porsche ได้นำ Cayenne รุ่นล่าสุดไปปรับแต่งจนกระทั่งสามารถทำสถิติเป็นรถ SUV ที่เร็วที่สุดในสนามแข่ง Nürburgring อีกด้วย
Porsche Cayenne เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Porsche Cayenne
Porsche Cayenne เรียกได้ว่าเป็นรถที่อยู่ในคลาสของตนเองก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านั้นประเทศไทย แทบจะไม่มีรถที่เป็น Luxury SUV มาก่อน และด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6 ล้านปลาย ๆ ไปจนถึง 12 ล้าน ทำให้ Cayenne เป็น Porsche ที่คนพอสัมผัสได้ และเหมาะกับสภาพถนนที่ไม่สู้ดีนักของเมืองไทย
ความสำเร็จของ Cayenne ยังได้รับการพิสูจน์แล้วจากทั่วโลก ด้วยยอดขายในปัจจุบันเกิน 1 ล้านคัน และเป็นรถที่ทำให้ Porsche หลุดออกจากสภาวะเกือบล้มละลายได้อย่างสวยงาม Porsche Cayenne เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบในรถสปอร์ต และมีงบประมาณอยู่ในระดับหนึ่ง และต้องการรถ SUV ที่มีความอเนกประสงค์ แต่ก็ยังสามารถให้ประสบการณ์การขับขี่แบบรถสปอร์ตได้อย่างเต็มที่แบบ 100% และที่สำคัญกำลังมองหารถที่สื่อถึงความเป็นตัวตนของตนเอง ดังนั้นถ้าคุณคือคนแบบนั้น Porsche Cayenne คือรถสำหรับคุณอย่างแน่นอน