ตลาดรถตู้แบบพรีเมียมของไทยนับว่าเป็นตลาดที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก มีผู้เล่นอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ จนกระทั่งปลายปี 2008 ค่ายรถยนต์เกาหลีใต้ Hyundai ตัดสินใจนำเปิดตัวพร้อมจำหน่าย H-1 เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีราคาเปิดตัวรุ่นล่างสุดอยู่ที่ 1,050,000 บาท นับเป็นราคาดีที่สุดในท้องตลาดในตอนนั้น
และภายในเวลาไม่นาน Hyundai H-1 ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดรถตู้พรีเมียม 11 ที่นั่ง แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและความไว้ใจของผู้บริโภคเป็นอย่างดี สำหรับ Hyundai H-1 ที่ขายในประเทศไทย เป็นแบบ 4 แถว 11 ที่นั่ง โดยที่นั่งด้านหน้าจะแบ่งออกเป็น 2 ชิ้น โดยชิ้นที่เป็นของผู้โดยสารจะเป็นแบบ Bench Seat สามารถนั่งได้ 2 คน ส่วนที่นั่งแถว 2 จะเป็นเบาะแยก 2 ชิ้นแบบ Captain Seat ก่อนที่แถวที่ 3 และ 4 จะเป็นแบบม้านั่งยาว โดยในแถวที่ 3 นั้นที่นั่งตรงกลางจะสามารถพับลงมาเป็นที่วางของได้ หรือพับไปด้านข้าง เพื่อให้คนเข้าไปนั่งในแถวที่ 4 ได้นั่นเอง
เนื่องจาก Hyundai H-1 เป็นรถที่สร้างขึ้นมาเพื่อเน้นความสบายของผู้โดยสารเป็นหลัก อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มากับรถจึงมีมาอย่างครบครัน ในบางรุ่นจะมีการติดตั้งจอ LCD มาให้สำหรับ Entertainment ที่เชื่อมต่อกับระบบ DVD ด้วย หลังจากเปิดตัวในปี 2008 มีการแต่งหน้าทาปากอีกเล็กน้อยในปี 2009 ก่อนที่จะมีการ Big Minor Change อีกครั้งในปี 2018 หลังจากที่ขายมายาวนานถึงเกือบ 11 ปี
Hyundai H-1 บรรจุผู้โดยสารได้มากถึง 11 คน อีกทั้งตัวเบาะยังออกแบบให้นั่งได้อย่างสบาย สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลายเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่ามากที่สุด
ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ Turbo Diesel Common Rail 2.5 ลิตร 175 แรงม้า ทำให้เหมาะกับการเดินทางแทบทุกรูปแบบ
โดยเฉพาะรุ่น Top เช่น ประตูสไลด์ไฟฟ้าที่ควบคุมด้วยรีโมต ช่องจ่ายไฟแบบ USB แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย จอภาพ LCD บริเวณด้านหลัง และระบบนำทาง GPS เป็นต้น
ด้วยความสามารถยึดเกาะถนนได้ดี เป็นรถตู้ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร ทำให้ลดความกังวลในการจอดหรือเข้าซอยต่าง ๆ ได้
มีถุงลมนิรภัยเพียง 4 ตำแหน่งคือ คู่หน้าและด้านข้างตอนหน้า ส่วนระบบอื่น ๆ ได้แก่ ระบบเบรก ABS สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ และระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP
มีทั่วประเทศไม่เกิน 30 แห่ง ทำให้ผู้ใช้งาน มีตัวเลือกในการบำรุงรักษารถตู้ Hyundai H-1 ได้น้อยลง
ไม่โดดเด่นเท่าไรนัก แตกต่างกับรถรุ่นอื่น ๆ ที่มีความสปอร์ตมากกว่า
สรุปราคามือสอง
สำหรับตัวเลือกของ Hyundai H-1 รถมือสอง นับว่ามีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และที่น่าสนใจคือ ราคาเปิดตัวที่ไม่แพงมาก ทำให้ราคาในตลาดมือสองค่อนข้างถูกลงมาอีก ลูกค้าที่มีงบประมาณไม่มาก แต่อยากได้รถขนาด 11 ที่นั่งที่คุ้มค่าและไว้ใจได้ สามารถเป็นเจ้าของได้โดยไม่ลำบากมากนัก แต่เนื่องจาก H-1 เป็นรถที่เน้นการโดยสารเป็นหลัก ดังนั้นผู้ซื้อควรที่จะต้องเชคสภาพของห้องโดยสารให้ดี โดยเฉพาะระบบปรับเก้าอี้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่อาจจะมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ส่วนเรื่องของเครื่องยนต์นั้นเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานอยู่แล้ว และเนื่องจาก Hyundai H-1 ทำตลาดในประเทศไทยมานาน จึงมีการ Minor Change ย่อย ๆ อีกหลายครั้งด้วยกัน ดังนั้นต้องศึกษาให้ดีและดูรุ่นปีของ H1 ให้เป็นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2008
Hyundai H-1 รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้มีความหวือหวาอะไรมากนัก แต่ก็ดูดีกว่ารถตู้ในเชิงพาณิชย์ทั่วไป แต่จุดเด่นอยู่ที่ภายใน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการขนส่งผู้โดยสาร ที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก แตกต่างจากรถตู้ทั่วไปที่อาจจะเน้นเพียงปริมาณผู้โดยสารที่ขนส่งได้ต่อครั้ง ดังนั้นห้องโดยสารจึงถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสารทุกประเภท
ภายในห้องโดยสารเน้นความสว่าง ที่นั่งนุ่มสบาย สามารถปรับระดับได้หลากหลาย รวมถึงการพับเก็บในหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ประตูเลื่อนสไลด์ได้ทั้ง 2 ด้าน “ซ้าย-ขวา” ทำให้ง่ายต่อการขึ้นลง เหมาะมากกับบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ ที่ต้องอาศัยความระมัดระวังในการขึ้นลงรถ และที่เก๋ไก๋คือ ที่นั่งแถว 2 ที่เป็น Captain Seat สามารถหมุนไปด้านหลังได้ถึง 180 องศา เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถประชุมสนทนา หรือ ดูแลกันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย (ลองนึกภาพคนแก่ ที่อาจจะต้องได้รับการดูแลตลอดเวลาดู) และแน่นอนที่นั่งทุกแถวมาพร้อมกับช่องแอร์ส่วนตัวที่มีที่ปรับอุณหภูมิที่แยกมาจากส่วนกลาง
Hyundai H-1 ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว 2.5 ลิตร ระบบ Common Rail Direct Injection พร้อม Turbo มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมโหมด +/- ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เอง ให้การตอบสนองที่ดี รวมไปถึงช่วงล่าง Hyundai H-1 พัฒนามาจากรถยนต์นั่งธรรมดา จึงนุ่มสบายไม่ต่างจากรถเก๋ง ไม่สะเทือนเหมือนกับรถแวน หรือรถตู้บางรุ่นที่มีช่วงล่างที่พัฒนามาจากรถกระบะ
สำหรับ Hyundai H-1 มี 3 รุ่นย่อย Touring, Executive และ Deluxe โดยในปี 2009 ได้มีการเพิ่มออปชั่นอย่างสปอยเลอร์หลังมาให้ตัวรถดูมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น และในปี 2014 ก็ได้มีการออกรุ่น Minor Change ออกมา โดยมีการปรับโฉมของกระจังหน้าให้ดูทันสมัยมากขึ้นด้วยโครเมี่ยมสามแถว และกระจกข้างที่ติดไฟเลี้ยวมาให้ ส่วนขุมพลังต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิมอยู่ และเหลือจำหน่าย 2 รุ่นย่อย Elite และ Deluxe ทั้งนี้ Hyundai H-1 รุ่นปี 2008 มือสอง ราคาเริ่มต้น 399,000 บาท*
รุ่นปี 2018
ในการเปลี่ยนโฉมใหญ่ครั้งนี้ Hyundai ได้ปรับโฉมโดยการทำ Facelift ครั้งใหญ่ให้กับ Hyundai H-1 ด้วยหน้าตาที่ดูมีความภูมิฐานมากขึ้น เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังยังคงเหมือนเดิม และวางจำหน่าย 3 รุ่นได้แก่รุ่น Touring, Elite และ Deluxe และล่าสุดในปลายปี 2020 มีการออกรุ่น Impressive ออกมา ที่ติดตั้งอุปกรณ์แบบจัดเต็มมาให้ ซึ่งมีวางจำหน่ายเพียง 200 คันเท่านั้น ทั้งนี้ Hyundai H-1 รุ่นปี 2018 มือสอง ราคาเริ่มต้น 929,000 บาท*
Hyundai H-1 เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Hyundai H-1
สำหรับ Hyundai H-1 นอกจากโดดเด่นในเรื่องของห้องโดยสาร ที่ขายความสบาย กว้างขวาง ราวกับห้องรับแขกแบบ VIP แล้ว ตัวรถยังได้รับการพัฒนาโดยมีช่วงล่างแบบรถยนต์ ทำให้ผู้โดยสารได้รับความนุ่มสบายขณะโดยสาร ประตูสไลด์ที่เปิดออกได้ทั้งสองข้าง กับประตูหลังที่เปิดได้ถึง 90 องศา ทำให้การขึ้นลงทำได้ง่าย รวมไปถึงการขนสัมภาระต่าง ๆ ด้วย
ทั้งหมดนี้รวมกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้การตอบสนองดี และประหยัดน้ำมัน ทำให้ Hyundai H-1 เป็นรถที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในตลาดมือสอง โดยเฉพาะคนที่มีงบประมาณไม่มาก แต่อยากได้รถตู้พรีเมียมขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้เยอะ และนั่งสบาย แถมไม่อึดอัดอีกด้วย