Hyundai หรือ ฮุนได แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมจากประเทศเกาหลีที่คนไทยรู้จักดี มีชื่อเสียงในเรื่องของความประหยัด และคุ้มค่า และในระยะหลัง ๆ ก็สามารถผลิตรถที่เป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั่วโลกได้ จนกลายมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลกในปัจจุบัน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้บริษัทฮุนไดต้องผ่านความพยายาม และมุมานะอุตสาหะมากมาย
ในประเทศไทย Hyundai เข้ามาลองตลาดครั้งแรกในปี 1992 โดยใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีการนำเข้ารถยนต์ของรัฐบาลในตอนนั้น มีการออกผลิตภัณฑ์เพื่อเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ C Segment และ D Segment ผ่านทางรถยนต์อย่าง Hyundai Elantra และ Hyundai Sonata โดยว่าจ้างบริษัท United Auto Sales เป็นผู้บริหารในการจัดจำหน่าย แต่ด้วยความขัดแย้งกันบางประการ ทำให้ Hyundai ถอนตัวออกไปจากประเทศไทยในปี 2002
Hyundai กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งในปี 2006 โดยคราวนี้ทางบริษัทแม่เป็นคนมาลงทุนด้วยตนเอง เปิดตัวพร้อมกับ Hyundai Santa Fe และ Hyundai Sonata แต่รถยนต์ที่ทำให้การกลับมาของ Hyundai ประสบความสำเร็จจริงๆ คือ Hyundai H-1 รถตู้ขนาดใหญ่ 11 ที่นั่งที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาจนถึงปัจจุบัน จนในปี 2016 ยอดขายของ Hyundai ในประเทศไทยก็ครบ 30,000 คัน และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
ปัจจุบันคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเป็นรถตู้ในกลุ่ม MPV ระดับพรีเมียม ห้องโดยสารขนาดใหญ่ รองรับผู้โดยสารสูงสุดได้ถึง 11 ที่นั่ง นับเป็นรถที่สร้างยอดขายเป็นหลักให้กับ Hyundai ในตลาดเมืองไทย
รถยนต์แบรนด์ Hyundai เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ที่โดดเด่นในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะการเพิ่มออปชันสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องโดยสาร รวมไปถึงขุมพลังขับเคลื่อน ปัจจุบัน Hyundai เริ่มเบนเข็มไปจับตลาดในกลุ่มรถยนต์ EV พลังงานไฟฟ้า 100%
Hyundai มาพร้อมดีไซน์ที่ปรับให้ล้ำสมัยมากขึ้น กล้าที่จะคิดและออกแบบด้วยรูปทรงที่แหวกแนว ตัวรถมีความเป็นปราดเปรียว และให้ความรู้สึกที่คล่องตัว แตกต่างจากในอดีตที่รถยนต์ของ Hyundai จะมีรูปทรงแบบเหลี่ยม
ในอดีตแบรนด์ฮุนไดเคยทำตลาดและขายในไทยมาแล้ว จากนั้นกระแสความนิยมจึงเริ่มชะลอตัว ก่อนจะกลับมาใหม่ในช่วง 10 ปีล่าสุด ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ยังขาดความมั่นใจในเรื่องความต่อเนื่องด้านการตลาด ทำให้มีโชว์รูมและศูนย์บริการในไทยน้อยลง
Hyundai ไม่มีโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ในไทย รถแต่ละรุ่นที่ขายใช้วิธีนำเข้า 100% แต่อะไหล่บางชิ้นก็ต้องสั่งนำเข้า และใช้เวลารออยู่พอสมควร รวมถึงเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูง
ในตลาดโลกรถยนต์ของ Hyundai เริ่มได้รับความนิยม และมีอัตราการขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สำหรับในไทย Hyundai ยังไม่ใช่รถยนต์แบรนด์หลักที่ได้รับความนิยมเหมือนกับรถญี่ปุ่น มียอดขายดีเฉพาะในรถตู้ Premium MPV ในรุ่น H1
เมื่อไม่ใช่รถแบรนด์หลัก การขายเป็นรถมือสองราคาจึงตกลงหลายเท่าตัว รถเก๋งมือสองของ Hyundai แม้สภาพดีจะหายาก แต่ราคากลับไม่แพง ซื้อขายกันในราคาหลักหมื่นถึงหนึ่งแสนนิด ๆ เท่านั้น
สรุปราคารถยนต์มือสอง Hyundai
รถยนต์ Hyundai ในตลาดมือสองนั้นมีหลากหลายรุ่นด้วยกัน ทั้งรถในกลุ่ม C-Segment อย่าง Hyundai Elantra และ D-Segment และแน่นอน รวมไปถึงรถตู้อเนกประสงค์ 11 ที่นั่งด้วย แต่ในปัจจุบันตอนนี้ทาง Hyundai ประเทศไทยจะทำตลาดในกลุ่มรถตู้อเนกประสงค์เท่านั้น
Hyundai Accent คือรถยนต์ซีดานขนาดเล็ก ที่มาสานต่อความสำเร็จของ Hyundai Excel ในประเทศไทย มีการนำเพียงแค่เจเนอเรชันที่ 1 เข้ามาวางจำหน่ายเท่านั้น ก่อนที่ทาง Hyundai จะถอนตัวไปจากตลาดประเทศไทยเป็นการชั่วคราว
สำหรับรุ่นที่ขายในประเทศไทย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1300 CC มีขายทั้งในรุ่นซีดาน 4 ประตู และ Sprint คือรุ่น Coupe 2 ประตู ในตลาดมือสองนั้นสภาพส่วนมากจะต้องนำไปบูรณะใหม่ และเหมาะกับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถไปทำการบูรณะเท่านั้น
Hyundai Elantra คือหนึ่งในรถที่สร้างชื่อให้กับ Hyundai เพราะนี่คือตัวแทนจาก Hyundai ในการชิงชัยในตลาดรถยนต์แบบ C-Segment เริ่มขายเป็นครั้งแรกในปี 1990 และขายมาเรื่อย ๆ จนถึงโฉมปัจจุบัน ที่ถือว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 7 และยังคงเป็นรถที่ทำเงินให้กับแบรนด์ Hyundai ตลอดมา
Hyundai Elantra ในเจเนอเรชันที่ 1 เข้ามาขายในประเทศไทยในปี 1992 โดยเป็นการนำเข้าทั้งคันมาจากประเทศเกาหลีใต้ มีทั้งเครื่องยนต์ 1500 CC 1600 CC และ 1800 CC ทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ โดยเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังยังเป็นของ Mitsubishi อยู่ ในตอนนั้นถือว่าขายดีพอสมควรในประเทศไทย ในตลาดมือสองมีราคาเริ่มต้นที่ 30,000 บาท ซึ่งถ้าจะซื้อ ก็อาจจะต้องไปบูรณะกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว
Hyundai Elantra เจเนอเรชันที่ 2 ในปี 1995 Hyundai Elantra เปิดตัวเจเนอเรชันที่ 2 ในประเทศไทย โดยมีรูปร่างหน้าตาที่แปลกใหม่ ด้วยรูปทรงโค้งมนทั้งคันลักษณะคล้ายเปลือกหอย ตามเทรนด์การออกแบบรถในยุค 90s โดยมีเครื่องให้เลือก 2 แบบคือ 1600 CC และ 1800 CC มีทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และ Touring Wagon ซึ่งเป็นรถ Station Wagon ขนาดเล็ก คันแรก ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย และเป็นรถที่ขายดีมากมากอีกคันหนึ่ง ในปัจจุบันในตลาดมือสองแทบจะหาเจเนอเรชันนี้ไม่ได้อีกแล้ว
Hyundai Elantra เจเนอเรชันที่ 5 หลังจากเจเนอเรชันที่ 2 ทาง Hyundai ตัดสินใจที่จะถอนตัวออกไปจากตลาดประเทศไทย และกลับมาอีกครั้งในปี 2006 พร้อมกับเปิดตัว Hyundai Elantra เจเนอเรชันที่ 5 ที่มาพร้อมกับการปฏิวัติการออกแบบ ให้รูปทรงสไตล์สปอร์ต หน้าลู่ลม ท้ายโด่ง ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ดุดัน โดยมีเครื่องยนต์แบบเดียวให้เลือกคือ 1800 CC มีทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาให้เลือกใช้
ในเจเนอเรชันนี้ ถือเป็นการก้าวกระโดดอีกครั้งของแบรนด์ Hyundai เพราะรถถูกออกแบบมาให้เป็น Global Car อย่างแท้จริง ช่วงล่างนุ่มสบาย สมรรถถนะที่ดีเยี่ยม ห้องโดยสารที่กว้างขวางคือสิ่งที่ Hyundai Elantra ในรุ่นนี้จะมอบให้กับผู้ซื้ออย่างแน่นอน
สำหรับ Elantra ในเจเนอเรชันนี้มีราคามือสองเริ่มต้นที่ 270,000 บาท และยังพอมีตัวเลือกให้เลือกค่อนข้างมาก สาเหตุที่รถรุ่นนี้ขายได้ไม่ดีตอนเปิดตัว อาจจะเป็นเพราะการตั้งราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่ง ดังนั้นตลาดมือสองราคาจึงตกค่อนข้างมาก ซึ่งนี่คือข่าวดีสำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้
Hyundai Sonata เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปี 1992 ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ในตลาดโลก พร้อมกับการเปิดตัวของ Hyundai ในประเทศไทย ในตอนนั้นรถยนต์มีรูปร่างค่อนข้างโบราณเมื่อเทียบกับรถคู่แข่ง เพราะยังเป็นทรงเหลี่ยมแบบ Boxy Design ทั้งไฟท้ายต่าง ๆ ก็เป็นเหลี่ยมมุมไปหมด และวางจำหน่ายเพียงปีเดียวเท่านั้น
Hyundai Sonata ในเจเนอเรชัน 3 มีความโค้งมน เพื่อเพิ่มความทันสมัยให้กับรูปลักษณ์ของรถ มีความหรูหรา พรีเมี่ยมด้วยการใช้โครเมี่ยมมาเป็นกระจังหน้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1800 CC และ 2000 CC แต่ยังเป็นเครื่องยนต์ของ Mitsubishi อยู่ และ Sonata รุ่นนี้ขายได้ค่อนข้างดีในประเทศไทย ตอนนี้ราคาเริ่มต้นมือสองอยู่ที่ 39,000 บาท
Hyundai Sonata เจเนอเรชัน 5 กลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งในปี 2007 ซึ่งจริง ๆ แล้ว Sonata รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของฮุนไดในตลาดโลกอย่างสิ้นเชิง นักวิจารณ์รถยนต์ทั่วโลก ต่างยกย่องถึงคุณภาพการผลิตที่ดีเยี่ยม สมรรถนะที่ดี และการขับขี่ที่สนุก นุ่มสบาย เป็นการก้าวกระโดดอย่างแท้จริงของรถยนต์ Hyundai และสามารถแข่งขันกับ Toyota Camry และ Honda Accord ได้สบายๆ
รถรุ่นนี้ประกอบในประเทศไทย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2400 CC 164 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ทาง Hyundai พัฒนาขึ้นมาเอง และในช่วงหลังมาการออกรุ่น CNG ขึ้นมาสำหรับคนที่ต้องการประหยัดน้ำมัน แต่น่าเสียดายที่รถรุ่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จมากนักในประเทศไทย อาจจะด้วยรูปร่างที่ล้าสมัยไปนิด ในปัจจุบันราคามือสองเริ่มต้นที่ 137,000 บาท
สำหรับเจเนอเรชันที่ 6 เพื่อล้างภาพลักษณ์ที่ดูน่าเบื่อ ทำให้ประเทศไทยใช้ชื่อรถรุ่นนี้ว่า Hyundai Sonata Sport มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่เพรียวลม สปอร์ต และโฉบเฉี่ยวดุดันมากขึ้น และเป็นรถนำเข้าทั้งคันมาจากประเทศเกาหลีใต้
ในประเทศไทย รถรุ่นนี้มาพร้อมกับขุมพลัง 4 สูบ 2000 CC เครื่องยนต์ Theta-II 165 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีราคามือสองเริ่มต้นที่ 285,000 บาท
Hyundai Veloster คือผู้สานต่อความสำเร็จของ Hyundai Tiburon มาถึงตอนนี้ Hyundai เปลี่ยนการออกแบบให้ตัวรถดูเป็นเหมือนรถ Hatchback 2 ประตู แทนที่จะเป็นรถสปอร์ตเพรียวลม เพื่อสนองความต้องการของตลาดให้มากยิ่งขึ้น โดยชื่อ Veloster มาจาก Velocity ที่แปลว่าความเร็ว บวกกับคำว่า Roadster ที่แปลว่า รถเปิดประทุนขนาด 2+2 โดยรถรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหลังคาแบบ Panoramic Roof
Hyundai Veloster เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2011 และเริ่มขายในไทยในปี 2013 มาพร้อมกับเส้นสายที่ดูลงตัว และดู Futuristic ถือว่าเป็นรถที่ “กล้า” ที่จะออกแบบ และน่าจะเป็นรถที่ Hyundai ทำออกเหมือนเป็น Experimental Design เพื่อดูว่าคนจะยอมรับการออกแบบรถแบบนี้ได้มากแค่ไหน
ขุมพลังที่จำหน่ายในไทยมี 2 รุ่นด้วยกันคือ 1.6 MPI 130 แรงม้า และรุ่น 1.6 GDI Turbo ที่มีการติดตั้งระบบอัดอากาศมาเพื่อขาซิ่งทั้งหลาย โดยให้แรงม้าที่สูงถึง 186 แรงม้า แถมระบบ Turbo ยังเป็นแบบ Twin Scroll ที่มีการแยกระบบไอเสียสองด้าน เพื่อเพิ่มกำลังในการอัดอากาศ ทุกรุ่นมีระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมแป้น Paddle Shift ที่พวงมาลัย
ตอนนี้ในตลาดโลกมีการเปิดตัวเจเนอเรชันที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในประเทศไทยนั้นทาง Hyundai เลิกทำตลาดรถยนต์รุ่นนี้ไป แต่คาดว่าในอนาคตก็อาจจะมีการนำรถรุ่นนี้เข้ามาอีก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ค่อนข้างมีความเฉพาะกลุ่ม ดังนั้นถ้าคุณอยากจะเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้ในตอนนี้ คุณจะสามารถหาได้ในตลาดมือสองเท่านั้น
Hyundai Tucson เป็นรถที่แตกไลน์ออกมาจาก Hyundai Santa Fe โดยเป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ออกมาเพื่อแข่งขันกับรถอย่าง Nissan Juke หรือ BMW X1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถขนาดเล็ก ยกสูง มีความอเนกประสงค์ในการใช้งาน เปิดตัวเจเนอเรชันแรกในปี 2004 ส่วนในไทยมีขายแค่เพียงเจเนอเรชันที่ 2
Hyundai Tucson เจเนอเรชันที่ 2 ออกแบบแบบ Fluidic Sculpture Design ให้ความรู้สึกลื่นไหล ต่อเนื่อง ฉีกกฎการออกแบบแบบเดิม ๆ ของ Hyundai โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการใช้ชีวิตของคนในยุโรป ที่มีความทันสมัย ฉับไว คล่องตัว
Hyundai รุ่นนี้เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2010 มีทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อให้เลือกใช้ มาพร้อมกับขุมพลัง 2000 CC 4 สูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน 166 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดบวกลบ พร้อมช่วงล่างที่เกาะถนนหนึบได้ดั่งใจ มีราคามือสองเริ่มต้นที่ 310,000 บาท และมีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย
Hyundai H-1 เป็นรถที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของ Hyundai ในตลาดประเทศไทยในปัจจุบัน เพราะ Hyundai เป็นเพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่มีการนำรถในลักษณะนี้เข้ามาจำหน่าย ซึ่งทุกอย่างก็แสดงออกมาจากยอดขาย และการที่เราสามารเห็นรถรุ่นนี้วิ่งได้ทั่วไปในท้องถนนเมืองไทย
Hyundai H-1 ถูกออกแบบมาเพื่อการขนส่งโดยเฉพาะ ที่เน้นความสะดวกสบายของผู้โดยสารเป็นหลัก ดังนั้นห้องโดยสารจึงถูกออกแบบด้วยความพิถีพิถัน สามารถพับเก็บได้หลายรูปแบบ ที่นั่งแถว 2 เป็นแบบ Captain’s Seat คือแยกซ้ายขวาสองด้าน และยังสามารถหมุนไปด้านหลังได้ 180 องศา และมาพร้อมกับช้องแอร์ส่วนตัวในทุกแถว
เครื่องยนต์ของ H-1 เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2500 CC เป็นระบบ Commonrail Direct Injection พร้อม Turbo เพื่อสมรรถนะในการขับขี่ มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และโหมดบวกลบ นอกจากนี้ช่วงล่างของ H-1 ยังพัฒนามาจากรถยนต์นั่ง ให้ความนุ่มสบาย และการขับขี่สะดวก
ในปัจจุบัน Hyundai H-1 ถูกแทนที่ด้วย Hyundai Staria ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนโฉมวงการรถตู้อเนกประสงค์แบบหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยการออกแบบแบบ Futuristic ดูหรูหรา เป็นการปิดฉากตำนานของ Hyundai H-1 ที่ทำตลาดมานานกว่าศตวรรษ
Hyundai Grand Starex เป็นรถที่มีแนวคิดมาจาก Hyundai H-1 ที่ลูกค้าหลายคนมักนำไปแต่งภายในให้ดูหรูหรา พรีเมี่ยม มีความเป็น VIP มากขึ้น Hyundai จึงถือโอกาสเอา Hyundai H-1 มาปรับแต่งทั้งภายในและภายนอก ให้พรีเมี่ยมมากขึ้น จากโรงงานโดยตรงเลย
ภายในมาพร้อมกับที่นั่งที่สามารถปรับนอนได้ พร้อม LCD 19 นิ้วและเครื่องเสียง JBL เพื่อความบันเทิงเต็มรูปแบบระดับ VIP ส่วนเครื่องยนต์เป็นเครื่องรุ่นเดียวกับ Hyundai H-1 และในปัจจุบันก็ทำตลาดคู่ไปกับ Hyundai H-1
บทสรุป Hyundai
Hyundai คือหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชั้นนำที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จากการที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากผู้อื่น จากการที่ลูกค้าหลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีกับแบรนด์ จนในปัจจุบัน Hyundai กลายมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง และมีการวางจำหน่ายในกว่า 190 ประเทศ ทั่วโลก พร้อมผลิตภัณฑ์ที่คลุมทุก Segment
เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้า Hyundai ไม่ใช่แบรนด์ที่พยายามจะถีบตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา จากการพยายามผลิตเครื่องยนต์เอง ออกแบบรถเอง จนในปัจจุบัน Hyundai ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าสามารถผลิตรถยนต์ได้ทัดเทียมกับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ
สำหรับในประเทศไทยนั้น Hyundai มีโชว์รูมทั่วประเทศกว่า 25 แห่ง โดยเน้นการขายรถอเนกประสงค์เป็นหลัก โดยเฉพาะ Hyundai H-1 ที่เป็นเจ้าตลาดรถตู้ 11 ที่นั่ง แบบไม่มีคู่แข่ง แต่คาดว่าในอนาคตเมื่อตลาดพร้อมมากกว่านี้ และมีการนำรถมาผลิตในประเทศแถบ ASEAN มากขึ้น รับรองว่าเราจะเห็นรถรุ่นใหม่ ๆ จาก Hyundai เข้ามาทำตลาดในเมืองไทนเพิ่มเติมแน่นอน