Almera นับเป็น Eco Car ที่ทาง Nissan ต้องการใช้เจาะตลาด B-Segment ด้วยหลักการออกแบบบนพื้นฐานให้เป็นซีดานขนานแท้ และกำหนดให้ Almera เจาะตลาดกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน อินเดีย และภูมิภาค Asean ซึ่งมีความต้องการการซื้อรถใหม่ที่ให้ความประหยัดเชื้อเพลิงค่อนข้างสูง
รูปลักษณ์ภายนอกของ Nissan Almera เจเนอเรชั่นแรกตัวรถมีหลังคาสูง ด้านท้ายดูกว้าง เพื่อเสริมความภูมิฐานดูแข็งแกร่งให้กับตัวรถ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์ในทุกรุ่นย่อย ห้องโดยสารจึงออกแบบมาให้มีความกว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่ Legroom กว้างกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ส่วนภายในมีการปรับเปลี่ยนการออกแบบให้ดูเหนือชั้นกว่า Nissan March
Nissan Almera รุ่นแรกเปิดตัว พร้อม Presenter ก็คือ “โดม-ปกรณ์ ลัม” และในเวลาไม่นาน Almera ก็วิ่งอยู่ทั่วประเทศไทย จนสามารถกล่าวได้ว่าเป็นรถที่ขายดีลำดับต้นๆ ของ Nissan โดยเจเนอเรชันแรกทำตลาดนานถึง 8 ปี ก่อนแทนที่ด้วยเจเนอเรชัน 2 ในปี 2019 ซึ่งมีการนำข้อติชมจากเจนฯ แรกมาปรับแต่ง จนสามารถกวาดยอดขายไปได้อย่างงดงาม
ในบรรดากลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก SubCompact Cars ตัว Nissan Almera ได้ชื่อว่าเป็นรุ่นที่เครื่องยนต์พละกำลังแรง ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC turbo indirect injection ส่งกำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ทำงานประสานกับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT with D-stip
แม้เครื่องยนต์จะแรงแซงได้ทุกเส้นทาง แต่ Nissan Almera ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ให้คุณสบายกระเป๋า ด้วยอัตราการประหยัด สูงถึง 18 km/L ประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารถยนต์กลุ่มเดียวกันของคู่แข่ง
ฟังก์ชั่นโดยรวมค่อนข้างให้มาครบถ้วน ห้องโดยสารกว้างขวาง พื้นที่สัมภาระด้านหลังจุของได้เยอะ เน้นใช้งานง่าย สะดวกทุกการใช้งาน หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เบาะนั่งผ้าพร้อมเดินด้ายสีเทาเข้ม ปรับระดับสูง-ต่ำได้ ระบบความปลอดภัย
ช่วงหลังมานี้ทาง Nissan ได้ลดจำนวนศูนย์บริการลงหลายแห่ง ปัจจุบันเหลือเพียง 170 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น อาจจะไม่ครอบคลุมเท่าเมื่อก่อน อาจจะต้องเช็กอีกครั้งว่าบริเวณใกล้เคียงคุณยังมีให้บริการอยู่หรือไม่ เพื่อความสะดวกในระยะยาว
ด้วยความที่ตัวเครื่องยนต์และอัตราการเร่งตัว Nissan Almera ค่อนข้างทำได้ดี ในระยะยาวการทำงานของเกียร์ CVT จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะต้องทำงานหนักขึ้น ใช้แรงส่งที่มากกว่าเดิม อาจจะต้องบำรุงรักษาไวกว่ารถยนต์รุ่นอื่น ๆ
จังหวะช่วงที่จอดรถนิ่ง ๆ และเริ่มออกตัว อัตราการเร่งยังถือว่าค่อนข้างช้า กว่าจะขึ้นไปถึงความเร็วที่ต้องการ ใช้เวลาประมาณหนึ่ง แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่พอรับได้ การขับแบบระยะไกลทำได้ดี แต่ถ้าขับแบบรถติดในกรุงเทพฯ ที่มีจังหวะหยุดบ่อย อาจจะหงุดหงิ
สรุปราคามือสอง
Nissan Almera รุ่นแรกมีการ Minor Change หลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มเติมออปชันต่าง ๆ เข้าไปมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นสเกิร์ตข้างรถ ล้อแม็กลวดลายใหม่ ไฟหน้าใหม่ แต่เรื่องของเครื่องยนต์และระบบโดยรวมเหมือนเดิม ดังนั้นในตลาดมือสอง เมื่อต้องซื้อสักคัน ให้ดูออปชันของรถที่เหมาะสมกับคุณจริงๆ เพราะมีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกซื้อกัน ส่วนเจเนอเรชันที่ 2 เปิดตัวไม่นาน ราคามือสองอาจจะยังสูงอยู่ แต่แน่นอนว่าคุณจะได้รถที่สดใหม่และโฉบเฉี่ยวกว่าด้วยเช่นกันรุ่นปี 2011
สำหรับ Nissan Almera รุ่นปี 2011 หรือ อัลเมร่าเจเนอเรชันแรกเปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ “ความสุขที่กว้างกว่า” ดังนั้น ไม่ต้องพูดก็รู้ว่า จุดขายของรถคันนี้คือห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่นเอง
และจากการออกแบบอย่างชาญฉลาด ทำให้ห้องโดยสารของ Almera กว้างขวาง โออ่า มากกว่ารถคู่แข่งค่อนข้างเยอะ ด้วยราคาขายที่ใกล้เคียง จนอาจถูกกว่าด้วยซ้ำ บางครั้งกว้างกว่ารถยนต์ C-Segment บางรุ่นอีกด้วย ส่วนภายในห้องโดยสาออกแบบให้มีความพรีเมียม โดยมีการใส่วัสดุเคลือบเงาสีเงินเข้ามาแทรกในบางจุด ในขณะที่ปุ่มควบคุมต่างๆ ก็ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว
แต่สิ่งที่ทุกคนต่างก็พูดถึงเมื่อกล่าวถึง Nissan Almera คือเรื่องของความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี 3 สูบ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำในการเปลี่ยนเกียร์ และระบบ Idling Stop ทำให้ประหยัดน้ำมันมากถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร
ส่วนในเรื่องการขับ Nissan Almera นับเป็นรถที่เหมาะกับการเดินทางในเมือง มีความคล่องตัวระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ได้เร่งแซงได้ดีเหมือนกับรถคู่แข่ง เพราะอย่าลืมว่าตัวรถยังใช้เครื่องยนต์ขนาดแค่ 1200 ซีซี ส่วนช่วงล่างเซ็ตอัพให้มีความแข็งกว่า และทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบเบรก ABS
Nissan Almera มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย S, E, ES, V และ VL โดยรุ่นเริ่มต้น 1.2 S MT นับเป็น Eco Car ซีดานที่กว้างที่สุด และถูกที่สุดในตลาดตอนนั้นเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น
โดยในปี 2014 มีการปรับโฉม Minor Change พร้อมเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกเปลี่ยนชุดกระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าพร้อมกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ส่วนภายในก็ได้รับการออกแบบให้มีความพรีเมียมมากขึ้น ด้วยสี Piano Black และพวงมาลัยที่มีความสปอร์ตมากขึ้น จากนั้นในปี 2015 ได้มีการเปิดตัว Nissan Almera ก็ออกรุ่น Sportech มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน Nissan Almera รุ่นปี 2011 รถมือสอง เริ่ม 139,000 บาท
รุ่นปี 2019
และแล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวของเจเนอเรชันที่ 2 ของ Nissan Almera ในเดือนพฤศจิกายน 2019 นับเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ ที่มีความ “ปัง” มาก รูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มีความโฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ตมากขึ้นอย่าง “ชัดตาเปล่า” ด้วยหลักการออกแบบแบบ Emotional Geometry ให้ตัวถังเตี้ยลง แต่มีความยาวและกว้างขึ้น
แต่โดดเด่นที่สุดในเจเนอเรชันนี้ ต้องยกให้เครื่องยนต์ตัวใหม่ ขุมพลัง 1.0 ลิตร เทอร์โบ พลัง 100 แรงม้า เร่งแซงได้อย่างคล่องตัว แต่มาพร้อมความประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย ห้องโดยสารใช้คอนเซ็ปต์ Gliding Wing มีเส้นลากจากคอนโซลกลางรถ เฉียงขึ้นไปทั้งซ้ายและขวา ดูเรียบง่ายแต่ก็ร่วมสมัยแบบพอดี มีช่องเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าครบครัน
Nissan Almera รุ่นปี 2019 มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อน S, E, EL, V, VL โดยใน 2 รุ่นสูงสุด V และ VL มาพร้อมเครื่องเสียง Clarion พร้อมระบบกล้องมองรอบทิศทาง ในบางรุ่นยังมาพร้อมกับระบบ Blind Spot Warning และ Intelligence Forward Collision Warning และถุงลมนิรภัยหลายจุด มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว สำหรับ Nissan Almera รุ่นปี 2019 มือสอง เริ่มต้น 390,000 บาท
Nissan Almera เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Nissan Almera
Almera นับว่าเป็น Eco Car ที่ประสบความสำเร็จในไทยลำดับต้นๆ ของ Nissan ด้วยยอดขายที่ค่อนข้างดี หลังจากที่ Nissan ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก กับการนำรถหลายรุ่นเข้ามาในประเทศไทยในระยะหลัง เป็นซีดานขนาดเล็กที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย ผลิตจนถึงปัจจุบันรวม 2 เจเอนเรชันขับพอสนุก ประหยัดเชื้อเพลิง ราคาไม่แพง มือสองซื้อใช้เองนับว่าคุ้ม เป็นรถที่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเรียนจบ และบรรดา First Jobber ทั้งหลาย