Isuzu D-Max Cab 4 รถกระบะที่เรียกได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดแห่งยุค ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด จนสร้างปรากฏการณ์ยอดขายที่มากกว่า 2 ล้านคัน เราตามไปดูกันว่าแต่ละโฉมที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และเพราะเหตุใดจึงทำให้ Isuzu D-Max Cab 4 คันนี้ถึงครองใจผู้ใช้งานทั่วโลก
Isuzu Cab 4 รุ่นนี้มาพร้อมขนาดรถที่เตี้ยกว่าเดิม เด็กและผู้สูงอายุขึ้นลงสะดวก สะดวกด้วยตัวถัง 4 ประตู เน้นการใช้งานที่ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งโดยสารและขนของ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายขึ้น เป็นรถครอบครัวที่ใช้งานได้หลากหลาย
4 สูบ ขนาด 1.9 ลิตร 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งรถกระบะของค่ายนี้ได้ชื่อเรื่องช่วงล่างดี ขายต่อง่ายอยู่แล้ว
นอกจากห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบายแล้ว Isuzu Cab 4 ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกเพียบ ทั้งแผ่นกรองระบบปรับอากาศ PM 2.5 เบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 ระบบแนะนำการเปลี่ยนเกียร์ GSI ฯลฯ พร้อมด้วยระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC สัญญาณกันขโมย
ธรรมดาของรถกระบะ รวมถึงรถที่ให้สมรรถนะที่เร็วแรง การเผาผลาญพลังงานย่อมมากกว่ารถทั่วไปอยู่แล้ว ยิ่งเครื่องยนต์ใหญ่ ยิ่งบรรทุกของเยอะ อัตราการเผาผลาญยิ่งสูงตามไปด้วย
กระบะรุ่นนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์กับความเป็น City Car นัก ด้วยขนาดและรูปร่างที่ใหญ่ ซอกแซกตามซอยเล็ก ๆ ยาก รวมถึงหาที่จอดลำบาก ใช้พื้นที่เยอะ อาจจะไม่คล่องตัว
ด้วยขนาดช่วงล่างที่เตี้ยลงกว่าเดิม สะดวกขึ้นลงก็จริง แต่ก็ลุยอะไรได้น้อยลงเพราะต้องระวังช่วงล่างมากขึ้น อาจจะลุยได้ไม่เท่ากระบะรุ่นอื่น ๆ ใครที่เน้นขนของเป็นหลัก วิ่งตามต่างจังหวัด เข้าสวนออกฟาร์ม ตัว Isuzu Cab 4 อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ตอบโจทย์
สรุปราคามือสอง
สำหรับตลาดรถกระบะมือสองในไทยต้องบอกเลยว่าค่าย Isuzu นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และ D-Max นั้นก็เป็นรถกระบะอเนกประสงค์ที่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายแบบ เหมาะสำหรับคนที่กำลังตามหารถกระบะเอามาเพื่อใช้งานบรรทุกขนส่งสิ่งของ เพราะราคามือสองนั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2002
นับว่าโฉมแรกเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Isuzu Motor ประเทศญี่ปุ่น แบะ General Motor โดยช่วงแรกออกวางจำหน่าย 3 รูปแบบ ได้แก่ Spacecab กระบะตอนครึ่ง, Spark กระบะตอนเดียว และ Rodeo 4WD ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หลังจากนั้นในช่วงเดือนสิงหาคมมีการแนะนำรุ่น 4 ประตู ในชื่อ Cab 4 ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือกเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าอย่างวงกว้าง
ขุมพลังสำหรับในช่วงแรกเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร รุ่น 4JH1-T MAX 120 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ควบคุมหัวฉีดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบยอดนิยม 2.5 ลิตร รุ่น 4JA1-T MAX 79 แรงม้าที่ 3,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 176 นิวตันเมตรที่ 1,800 รอบ/นาที พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ MAXMATIC
รุ่นปี 2011
สำหรับในยุคนี้คือการสานต่อความสำเร็จจาก Isuzu D-Max รุ่นที่แบ้ว โดยมีการปรับโฉมดีไซน์ใหม่ทั้งคัน พร้อมแนะนำรุ่น Spacecab และรุ่น V-Cross ที่ะือว่าเป็นกระแสมาแรงที่สุดสำหรับยุคนั้น เพราะทำสถิติยอดจำหน่ายสูงสุด 15,000 คัน ภายในเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น
พร้อมติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ Isuzu Super Commonrail ให้เลือกถึง 3 ขนาดตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร 4JK1-TCX 136 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที และพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX แรงสุด 177 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5
พร้อมระบบ Rev-Tronic และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร รหัส 4JK1-TC 116 แรงม้าที่ ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ นอกจากนี้ทางค่าย Isuzu ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำรถกระบะด้วยเครื่องยนต์ดีเซล กับ Isuzu D-Max 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power มาตรฐานใหม่ที่ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุดและประหยัดน้ำมันที่สุดอีกด้วย
รุ่นปี 2020
โฉมนี้ได้รับการออกแบบดีไซน์ภายใต้แนวคิด “พลานุภาพพลิกโลก” ที่สร้างยอดขายเป็นรถกระบะขายดีที่สุดในเมืองไทย ภายในห้องโดยสารตกแต่งสวยวามและทันสมัยเข้ากับยุค จุดเด้นคือมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้วที่ทำหน้าควบคุมระบบความบันเทิงภายในรถ และเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับท่านั่งได้มากถึง 8 ทิศทาง
โดนโฉมนี้มีเครื่องยนต์ให้เบือก 2 แบบ คือ เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler รหัส RZ4E-TC ให้ะกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และอัตโนมัติ 6 จังหวะ
นอกจากนี้ มีเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler รหัส 4JJ3-TCX ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
Isuzu D-Max Cab 4 เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป Isuzu D-Max Cab 4
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันตลาดรถกระบะจะมีการแข่งขันที่สูงที่ทางค่ายต่างๆ ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ที่ทันสมัยแลเมีเทคโนโลยีมากมายแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Isuzu D-Max Cab 4 ยังควเป็นรถกระบะจายดีที่ขึ้นหิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะ และภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย Isuzu D-Max Cab 4 ยังคงความคุ้มค่ากับการลงทุนของคุณอย่างแน่นอน