Isuzu แบรนด์รถยนต์ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน เปิดตัวในบ้านเราตั้งแต่ปี 1957 บุกเบิกด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ ก่อนแตกไลน์สู่รถกระบะและอเนกประสงค์ จนกลายเป็น “โปรดักต์แชมเปียนส์” สร้างทั้งชื่อเสียงและยอดขายถล่มทลาย หลายยุคสลับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของรถกระบะ จากจุดเด่นเรื่องสมรรถนะที่สมบุกสมบัน อึด ถึก ทน ประหยัดเชื้อเพลิง ดีไซน์ผสานความแข็งแกร่งอย่างลงตัว อีซูซุกลายเป็นเจ้าตลาดตัวจริง ที่หลายคนให้การยอมรับ
Isuzu แตกไลน์เจาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ รถบรรทุก มีให้เลือกทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และ รถกระบะทั้งส่วนบุคคลและเพื่อการพาณิชย์ ช่วงแรกในเรื่องของการออกแบบ เน้นที่ความแข็งแกร่งเป็นหลัก ก่อนปรับให้มีความทันสมัยขึ้นตามยุคสมัย
Isuzu เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2459 ซึ่งอยู่ในวงการ และผลิตยานยนต์มากว่า 100 ปี
รถทุกคันของอิซูซุนั้นต้องได้ผ่านการลอง และทดสอบความเป็นรถกระบะ หรือ “Truck DNA” ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่าต้องมีความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และประหยัด
Isuzu เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อสมรรถนะการขับเคลื่อน ที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดการบริโภคเชื้อเพลิง และทนทาน อย่าง เครื่องยนต์ดีเซลอิซูซุคอมมอนเรล
รถยนต์แบรนด์อิซูซุเป็นรถที่ใช้งานง่าย และค่าซ่อมบำรุงไม่สูง เนื่องจากรถ และกลไกการทำงานของเครื่องยนต์นั้นไม่ซับซ้อน รวมถึงการเป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอันดับต้นๆ ทำให้สามารถหาอะไหล่แท้ได้ง่ายในราคาที่เป็นมิตร
ด้วยที่แบรนด์อิซูซุได้ตั้งตัวเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อเชิงพานิชย์เท่านั้น อย่างเช่น รถกระบะ, รถอเนกประสงค์ และ รถบบรทุก ซึ่งหมายความว่าแบรนด์ Isuzu นั้นไม่มีรถเก๋งทั่วไปสำหรับใช้ในเมืองจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค
รถ Isuzu มักจะมีอาการกำลังเครื่องยนต์แผ่วลงเมื่อบรรทุกหนัก ซึ่งเห็นได้ชัดกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่ในทางกลับกันอิซูซุก็ประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าเช่นกัน
เมื่อรถวิ่งในความเร็วสูงมักจะมีเสียงลม หรือ เสียงรบกวนจากภายนอกนั้นเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะเสียงจากระบบ ABS ซึ่งคาดว่าสาเหตุเกิดขึ้นจากการประกอบขอบยางประตูที่ไม่มิดชิด
สรุปราคารถยนต์มือสอง Isuzu
Isuzu มีจุดขายที่เป็นไฮไลท์ทั้งในเรื่องของรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ดัดแปลงแบบ PPV แม้ในอดีตพยายามโยนหินถามทาง ด้วยการทำรถเก๋งออกขาย แต่ก็ล้มเหลวจนต้องพับโครงการ ยุติสายการผลิตอย่างรวดเร็ว แล้วกลับมามุ่งมั่นเพื่อปลุกปั้นรถในตลาดที่ตัวเองถนัดต่อไป โดยรถไฮไลท์ของ Isuzu ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Kaidee Auto เราคัดให้คุณแล้ว
นับเป็นรถกระบะรุ่นพลิกประวัติศาสตร์ของ Isuzu อย่างแท้จริง เปิดตัวในปี 1988 นับเป็น TFR เจเนอเรชันที่ 4 ต่อจาก KBZ จำหน่ายภายใต้ชื่ออย่างเป็นทางการ Isuzu Faster Z 2500 DI คนไทยนิยมเรียกรถกระบะรุ่นนี้ว่า “มังกรทอง” ตามโฆษณาในทีวี มาพร้อมจุดเด่น เครื่องยนต์ดีเซล ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ ความจุ 2,499 ซีซี ขุมพลังในช่วงแรกอยู่ที่ 87 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (อัตโนมัติตามมาในช่วงปลายยุค) นับว่าแรงในสมัยกว่า 30 ปีที่แล้ว ซึ่งทาง Isuzu เป็นเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีนี้มาใส่ในรถกระบะ
รูปลักษณ์ภายนอกบึกบึน ภายในดูทันสมัย สะดุดตาด้วยแผงแดชบอร์ดที่มีปุ่มกดประกบทั้งด้านซ้ายและขวา ในช่วงแรกทำตลาดด้วยทางเลือก 2 ตัวถัง Spacecab กระบะตอนครึ่ง และ Spark กระบะตอนเดียว จากนั้น เพิ่มไลน์การผลิตรุ่น Rodeo 4WD มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตามมาในภายหลัง
จุดแข็งของ Dragon Eye อยู่ที่ความทนทาน ใช้งานสมบุกสมบัน ตลาดเมืองไทยต้องการรถกระบะที่ค่าบำรุงรักษาไม่แพง ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ที่สำคัญต้องประหยัดน้ำมัน ปัจจุบัน Isuzu Dragon Eye มือสองมีให้เลือกหลายสภาพ ราคาเริ่มต้นหลักหมื่น จนถึง 3 แสนกว่าบาท
จากความสำเร็จของ Dragon Eye นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะ ซึ่งมาพร้อมความคาดหวังที่มากขึ้น ค่ายรถ Isuzu เองก็เข้าใจในเรื่องนี้ จึงทำการบ้านและเตรียมตัวมาดี และให้ความสำคัญกับตลาดรถเมืองไทยมากเป็นลำดับต้นๆ ในที่สุดก็มาถึงการเปิดตัว D-Max ถึง 3 เจเนอเรชัน ไล่เรียงติดต่อกัน
Isuzu D-Max เจเนอเรชัน 1 ตัวรถออกแบบใหม่ทั้งหมด มิติตัวถังใหญ่ขึ้น ในช่วงแรกทำตลาด 4 รุ่นย่อย Spark ตอนเดียว, Spacecab ตอนครึ่ง, Cab 4 ตัวถัง 4 ประตู และ Rodeo 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ จากนั้นจึงเปิดตัว Hi-Lander กระบะยกสูง แล้วตามมาด้วยกระบะวัยรุ่นโฉมแต่ง X-Series
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล จับคู่กับระบบ คอมมอนเรล เป็นครั้งแรก มีให้เลือก 2 ความจุ เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร รหัส 4JK1-TC ขุมพลัง 116 แรงม้า และ เครื่องยนต์ดีเซล บล็อกใหญ่ ความจุ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TC จัดไป 146 แรงม้า สร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการรถกระบะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว “1 หมื่นคัน ใน 10 วัน และ 1 ล้านคัน ใน 7 ปี” สำหรับ D-Max เจเนอเรชัน 1 ราคามือสอง ซื้อ - ขาย เปลี่ยนมือ เริ่มต้นที่ 1 แสนบาท
Isuzu D-Max เจเนอเรชัน 2 เปิดตัวในปี 2011 และทำตลาดต่อเนื่อง รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบโฉบเฉี่ยว คล้ายกับ “รถไฟหัวกระสุน” ของญี่ปุ่น ทำตลาดด้วย 5 รุ่นย่อย Spark, Spacecab, Cab 4, V-Cross และ X-series อัดแน่นด้วยขุมพลัง 4 ทางเลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.5 ลิตร รหัส 4JK1-TC ขุมพลัง 116 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.5 ลิตร รหัส 4JK1-TCX พลัง 136 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX พลัง 177 แรงม้า และ Ddi Blue Power บล็อกใหม่แต่ขนาดเล็กลง เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC พลัง 150 แรงม้า โดย D-Max เจเนอเรชัน 2 ราคามือสอง เริ่มต้นที่ 4 แสนบาท
Isuzu D-Max เจเนอเรชัน 3 โฉมปัจจุบันเปิดตัวในปี 2019 ได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยวิธีผสมผสาน DNA ที่ยังคงมีความเป็น D-Max ครบทุกประการ ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ทำตลาดด้วยคอนเซ็ปต์ “พลานุภาพพลิกโลก” มี 5 รุ่นย่อย คือ Spark, Spacecab, Cab 4, Hi-Lander และ V-Cross ขุมพลัง 2 ทางเลือก เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS 1.9 ลิตร พลัง 150 แรงม้า และ ตัวท็อปสุด เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS ระวาง 3.0 ลิตร 190 แรงม้า นับเป็นการพัฒนาค่อนข้างเยอะตามเทรนด์ขุมพลังที่รักษ์โลกมากขึ้น D-Max เจเนอเรชัน 3 สนนราคามือสอง เริ่มต้น 7 แสนบาทเท่านั้น !
รถ (กึ่ง) อเนกประสงค์แบบ PPV เปิดตัวในปี 2004 ได้รับการพัฒนามาจากรถกระบะ D-Max ให้ขยายร่างกลายเป็นรถสเตชันแวกอนชัดเจน มีความสะดวกสบายในแบบรถ 3 แถว 7 ที่นัง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ (ในระดับหนึ่ง) แม้หลายคนอาจจะบอกว่าไปได้ไม่สุด แต่ก็เป็นรถกระบะที่ทำตลาดมาสักพักใหญ่ๆ โดยตลอดอายุทางการตลาด มีมากถึง 9 โฉม ปรับใหม่เพื่อเติมออปชันทุกปี เลือกใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ คอมมอนเรล ความจุ 3.0 ลิตร 146 แรงม้า
มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ พร้อมระบบกันสะเทือนที่นุ่มขึ้น แม้จะมีช่วงล่างเป็นแหนบเหมือนรถกระบะทุกประการก็ตาม Mu-7 ราคามือสอง เริ่มต้น 2 แสนบาท
ปฐมบทของรถอเนกประสงค์แบบ PPV รุ่นแรกของค่าย โดดเด่นด้วยดีไซน์และสมรรถนะที่ก้าวข้าม Mu-7 มาอีกขั้น ได้การตอบรับที่ดีตั้งแต่เปิดตัว นับจนถึงปัจจุบัน Mu-X มีทั้งหมด 2 เจเนอเรชัน ผ่านการทำตลาดในเมืองไทยยาวนานใกล้ 10 ปี
Isuzu Mu-X เจเนอเรชัน 1 เปิดตัวในปี 2014 รถยนต์อเนกประสงค์แบบ PPV ตัวถัง 7 ที่นั่ง โมเดลแรกของ Isuzu โดยคำว่า MU-X มาจาก Makes U eXciting พัฒนาภายใต้โครงสร้าง D-Max และผ่านความร่วมมือกับ GM จึงทำให้บางชิ้นส่วนสามารถใช้ร่วมงานกับ Chevrolet Trailblazer ได้อีกด้วย
เปิดตัวพร้อมจำหน่ายมากถึง 7 รุ่นย่อย เสริมทัพด้วยเครื่องยนต์ทางเลือก 3 รุ่น เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC พลัง 150 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS 2.5 ลิตร รหัส 4JK1-TCX พลัง 136 แรงม้า และรุ่นพี่ใหญ่สุด เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX พลัง 177 แรงม้า
โดยเจอเนอเรชันแรกได้รับความนิยมและการให้ความยอมรับมาก ทั้งในเรื่องความเสถียรและการทำงานที่สมบูรณ์แบบ สำหรับ Isuzu Mu-X เจเนอเรชัน 1 มือสอง ราคาเริ่มตัน 4 แสนบาท
Isuzu Mu-X เจเนอเรชัน 2 เปิดตัวในปี 2021 ได้รับการออกแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ป Originality Redefined - เหนือทุกความเชื่อ… เหนือทุกความสำเร็จ ดีไซน์คมเข้ม เติมความสปอร์ตพรีเมียมมากขึ้น โดยเฉพาะประตูหลังบานที่ 5 สวยสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่ยังเป็น PPV ที่ได้รับการต่อยอดมาจากรถกระบะ D-Max เหมือนเดิม Mu-X เจเนอเรชัน 2 มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ใช้พละกำลังจาก 2 ทางเลือก เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS Ddi Blue Power ความจุ 1.9 ลิตร ให้พละกำลัง 150 แรงม้า และ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ VGS Ddi Blue Power ความจุ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น สำหรับรถมือสอง Isuzu Mu-X เจเนอเรชัน 2 โฉมปี 2021 ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาท
บทสรุป Isuzu
Isuzu ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีภาพลักษณ์สตรองมาก ชูจุดเด่นในเรื่องการผลิตและจัดจำหน่ายรถกระบะและรถอเนกประสงค์ที่มีคุณภาพ ยาวนานกว่า 60 ปี มีโรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในไทยอย่างครบวงจร นอกจากนี้ รถกระบะและอเนกประสงค์จาก Isuzu ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ รถแต่ละรุ่นมาพร้อมความแข็งแกร่ง อึด ถึก ทน และที่สำคัญถูกพัฒนาให้มีความประหยัดน้ำมัน รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก หรือประเด็นปัญหาในแง่ลบ รถใช้งานดี ประหยัด ขับง่าย ค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่มีให้เลือกทั้งแท้และของเทียบ ซื้อดี ขายดี ราคาไม่ค่อยตก
ด้านบริการหลังการขายจัดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีมาก ปัจจุบันจัดจำหน่ายโดยกลุ่ม “ตรีเพชรอีซูซุ” มีโชว์รูมอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร จึงคู่ควรกับตำแหน่งผู้นำระดับหัวแถวของรถกระบะเมืองไทย ซึ่งลูกค้าต่างมั่นใจและให้ความเชื่อมั่นมาตลอด ตามแบบฉบับ “วิถี Isuzu”