BMW X1 รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กจากประเทศเยอรมนี พกพาความโดดเด่นในรูปแบบของ Compact SUV เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุมสำหรับยุคใหม่ คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานที่หลากหลาย ด้วยดีไซน์การออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ่งบอกถึงความปราดเปรียวและความคล่องตัวในเมืองหลวง และไปได้สุดทางแม่ในถิ่นภูธร สะท้อนภาพลักษณ์ของ SUV ยุคใหม่ได้อย่าลงตัว
BMW X1 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 จุดเด่นตัวถังที่ไม่ใหญ่มากนัก คงเอกลักษณ์ของกระจังหน้าทรงไตคู่ ไฟหน้า Bi-Xenon โคมรูปตาที่ดูโฉบเฉี่ยว ผสานเส้นสายรอบคันที่ดูแข็งแรงในสไตล์รถครอสโอเวอร์ ให้ความรู้สึกแข็งแรงดุดันที่แฝงความพรีเมียมเรียบหรู และยืนยันความเป็น BMW ไว้ได้อย่างชัดเจนที่ยากจะเลียนแบบได้
BMW X1 มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นจากค่ายเดียวกัน โดย BMW X1 มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ BMW X1 sDrive18i ICONIC ในราคาเริ่มต้น 1,999,000 บาท, BMW X1 sDrive20d xLine ที่ราคา 2,359,000 บาท และ ราคา 2,559,000 บาท กับรุ่น BMW X1 sDrive20d M Sport
BMW X1 เป็นอีกหนึ่งในรถ Crossover ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการประหยัดน้ำมัน ความแรง และ ทนทาน ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
มีการปรับดีไซน์ให้ดูกลมกลืนแต่ยังคงความสปอร์ตกว่ารุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น ตัวถังขนาดใหญ่กว่า, ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light และ ชุดไฟตัดหมอก, กระจังหน้าที่ดูมีมิติมากขึ้น, กันชนหน้าตกแต่งด้วยแถบอลูมิเนียม, ล้ออัลลอยลายใหม่ และอีกมากมาย
ช่วงล่างไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป โดยด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช๊คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังมาเป็นมัลติลิงค์พร้อมปีกนกอัลลอย จึงสามารถรับมือได้ทั้งในถนนเรียบ และ ขรุขระ
รถรุ่นนี้ไม่เด่นเรื่องเทคโนโลยีในการช่วยขับ โดยเฉพาะกับระบบ Cruise Control หรือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ผู้ขับหลายคนรู้สึกว่าที่นั่งแข็ง ทำให้นั่งไม่สบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเดินทางไกล นอกจากนี้ที่นั่งเบาะหลังก็ไม่สามารถปรับได้ ทำให้ต้องนั่งหลังตรงกันตลอดการเดินทาง
พื้นที่ในห้องโดยสารมีขนาดเล็ก บวกกับคอนโซลกลางที่มีขนาดใหญ่ทำให้พื้นที่วางขาสำหรับผู้ขับ และ ผู้โดยสารตอนหน้าน้อย
โดยมีระบบความปลอดภัยแบบพื้นฐาน ได้แก่ ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกและควบคุมแรงดัน, ระบบควบคุมความเสถียรและการยึดเกาะถนน, ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้าและหลัง ซึ่งถือว่าไม่ค่อยโดดเด่นเมื่อเทียบกับรถยนต์จากค่ายอื่นในระดับเดียวกัน
สรุปราคามือสอง
BMW X1 เป็นรถยนต์เอนกประสงค์ ที่พกพาความสามารถมาอย่างครบเครื่อง จะเห็นได้ชัดว่า BMW X1 ตอบได้ตรงโจทย์ และมีให้เลือกหลายรุ่นย่อยพอสมควร BMW X1 เจเนอเรชันที่ 1 รหัส E84มีราคาน่าสนใจแต่ต้องแลกกับออฟชั่นบางตัวที่น้อยกว่า ในขณะฝั่งเจเนอเรชันที่ 2 รหัส F48 ราคาสูงกว่า หมายเหตุ - *ราคาเริ่มต้น อ้างอิงจาก Kaidee Auto รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นปี 2010
BMW X1 เริ่มต้นผลิตและออกจำหน่ายไปทั่วโลก สำหรับรุ่นปี 2010 รหัสตัวถัง E84 มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่สวยงามแข็งแรงและพรีเมียม ขับขี่ภายในเมืองคล่องแคล่ว ห้องโดยสารภายในที่ใส่สิ่งอำนวยความสะดวกสบายไว้อย่างครบครัน มี 6 รุ่นย่อย มาพร้อม 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ 150 แรงม้า และดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 135 แรงม้า BMW X1 รุ่นปี 2010 มือสอง เริ่มต้น 489,000 บาท
รุ่นปี 2016
ในส่วนของรุ่นปี 2016 รหัสตัวถัง F48 ปรับดีไซน์โฉมใหม่ให้ดูมีความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงระยะของตัวถังและฐานล้อยาวตามแบบฉบับของรถ SAV ไว้อย่างชัดเจน สามารถขับขี่ได้บนเส้นทางทุกรูปแบบ ภายในห้องโดยสารที่มีความโปร่งกว้างมากกว่าเดิม
โดยรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน สำหรับใครที่ชื่นชอบรถ SUV ที่มีความเรียบหรูผสมผสานกับความสปอร์ตที่ลงตัว พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่คุณต้องการ BMW X1 รุ่นปี 2016 มือสอง เริ่มต้น 929,000 บาท
BMW X1 เปรียบเทียบสเปคเครื่องยนต์ทุกเจเนอเรชัน
บทสรุป BMW X1
สำหรับใครที่ชอบรถยนต์สมรรถนะสูง และประหยัดน้ำมันกับเครื่องยนต์เล็ก แต่พละกำลังเท่าเครื่องยนต์ใหญ่ และมี Option จัดหนัก ต้อง BMW X1 รุ่นนี้เท่านั้น สมรรถนะความแรงยังคงดีเยี่ยมเหมือนเคยตามแบบฉบับรถยุโรป ทางด้านภายในเทคโนโลยีมีแบบครบครัน ใช้งานได้คุ้มค่าราคา สำหรับราคา BMW X1 ในตลาดมือสองก็น่าสนใจไม่น้อยและยังถือว่า BMW X1 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตูที่หรูหราเป็นแนวหน้าของประเทศไทย