ในปี 2005 Ford ประเทศไทยก็ได้เปิดตัว Focus ด้วยเส้นสายที่ดูแปลกกว่ารถญี่ปุ่น ดูมีความโค้งมน ปราดเปรียว ทันสมัย แต่ก็แข็งแกร่ง ทำให้ Ford Focus ดูโดดเด่นเมื่อเทียบกับรถ Compact ยี่ห้ออื่น ๆ ภายในห้องโดยสารจะมีแผงคอนโซลหน้าสีเข้ม พร้อมจอ LCD แสดงผลเวลาขับขี่ พร้อมช่องแอร์ด้านหลังซึ่ง Ford Focus ถือเป็นเจ้าแรกที่มีระบบนี้ เรียกได้ว่าเอาใจคนเมืองร้อนแบบเต็มที่เลยทีเดียว

นอกจากนี้ด้วยการที่ Ford Focus เป็นรถที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อขายทั่วโลก จึงผ่านมาตรฐานความปลอดภัยอันหฤโหดของยุโรปและอเมริกา ส่วนระบบช่วงล่างเป็นแบบ Control Blade ช่วยเพิ่มความสามารถในการเกาะถนนแบบรถสไตล์ยุโรป พร้อมระบบ

หลังจากวางขายได้ไม่นานในปี 2008 ก็ได้มีการปรับโฉมครั้งแรก มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกเล็กน้อย แต่ที่สำคัญที่สุดคือมีการนำเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า TDCi ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ พละกำลังสูง และลดเสียงดังจากการทำงานของเครื่องยนต์ แต่ให้พละกำลังและการเผาผลาญที่ดีมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Power Shift ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเกียร์ที่ใช้คลัชท์สองตัว ส่วนเครื่องยนต์เบนซินก็ถูกปรับปรุงให้สามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้

ส่วนในปี 2010 มีการปรับโฉมในเจเนอเรชันนี้เป็นครั้งสุดท้าย โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้ามาเสริมให้มากขึ้น เช่น ที่ปัดน้ำอันโนมัติ ระบบปรับอากาศแยกซ้ายขวา เป็นต้น ส่วนเครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องยนต์แบบเดิมอยู่ สำหรับ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 1 รุ่นปี 2005 มือสอง ราคาเริ่มต้น 81,000 บาท

ผ่านไป 7 ปี ก็ถึงเวลาที่ Ford จะนำเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Focus เข้ามา (ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ในประเทศไทย) เริ่มจากการออกแบบตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่า และเตี้ยลงกว่าเดิม ทำให้ตัวรถดูมีความสปอร์ตมากขึ้น เส้นสายต่าง ๆ ของรถมีความเฉียบคม และทันสมัยกว่าเดิม

ส่วนภายในก็ได้รับการออกแบบใหม่หมด ดูมีความทันสมัยมากขึ้น เสริมความพรีเมียมด้วยวัสดุเคลือบเงาสี Piano Black ตรงบริเวณคอนโซลกลาง ส่วนเครื่องเสียงที่ติดมากับรถก็เป็นยี่ห้อ Sony พร้อมระบบ Entertainment และเชื่อมต่อ Ford Sync by Microsoft ในทุกรุ่น

นอกจากนี้ในทุกรุ่นย่อยยังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบไฟฉุกเฉินที่จะติดอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรคด้วยความรุนแรง มาพร้อมช่วงล่างสไตล์รถยุโรปที่ยังคงความสามารถในการเกาะถนนเหนือกว่าคู่แข่งเหมือนเดิม ส่วนในรุ่นท้อปจะมีระบบ Auto Park Assist ที่ตัวรถจะสามารถเข้าจอดตามแนวขวางได้ด้วยตัวเอง นับเป็นรถที่ราคาถูกที่สุด ณ เวลานั้นที่มีการติดตั้งระบบนี้มาให้

สำหรับขุมพลังของ Ford Focus ในรุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Duratec 16 วาล์ว มีสองความจุให้เลือก 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สำหรับ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 รุ่นปี 2012 มือสอง ราคาเริ่มต้น 178,000 บาท